วันที่ 27 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เป็นประธานการประชุม โดยการประชุมครั้งนี้ว่า นับแต่เกิดสถานการณ์โรคติดเชื้อโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 26 มีนาคม 2563  จังหวัดจันทบุรีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว รวม 3 ราย รายแรกเพศหญิงอายุ 27 ปี  สัมผัสเชื้อจากสถานบันเทิงในกรุงเทพมหานคร  เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพระปกแกล้ามาตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. อาการดีขึ้นตามลำดับ / รายที่ 2 เพศหญิง อายุ 51 ปี อาชีพขับรถตู้รับจ้าง เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลพระปกแกล้าเมื่อวันที่ 23 มี.ค.อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด / รายที่ 3 เพศชาย อายุ 22 ปี เป็นนักศึกษากลับจากต่างประเทศ ญาติรับตัวจากสนามบิน นั่งหลังรถกระบะตลอดเส้นทางคนเดียวจนถึงที่พักสวนผลไม้แยกกักตัวอยู่คนเดียว ปัจจัยการแพร่เชื้อสู่คนอื่นต่ำ เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเมื่อ 26 มี.ค. โดยทั้ง 3 ราย ได้รับการรักษาในห้องแยกความดันลบ ขณะที่ข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี  ส่วนสถานการณ์โดยรวมของวันที่ 27 มีนาคม 2563 มีผู้เข้าเกณฑ์ส่งตรวจหาเชื้อ รวม 53 ราย ตรวจไม่พบเชื้อ 49 ราย รอผลตรวจ 1 รายและพบการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 รวม 3 ราย อยู่ในความดูแลควบคุมของแพทย์อย่างใกล้ชิด

ด้านมาตรการรักษาความปลอดภัย ภายหลังจากที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19  ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจันทบุรีได้ออกคำสั่งที่เป็นมติของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจันทบุรี เพื่อป้องกันการระบาดของโรค รวมทั้งมีการตั้งจุดคัดกรองเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดเบื้องต้น 3 จุด ทั้งนี้จังหวัดจันทบุรี ขอความร่วมมือประชาชนให้ปฏิบัติตัวตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ตื่นตระหนก และให้ความร่วมมือกับทางราชการ ร่วมกันหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19  ได้คลี่คลายโดยเร็วและกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ด้วยการ 1)-อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ และเพื่อความปลอดภัยของเราทุกคนในจันทบุรี  2)-บุคคลที่มีอาการป่วย หรือ สุ่มเสี่ยงขอให้แจ้งข้อมูลที่แท้จริงเพื่อป้องกันการแพร่ ระบาดจะขยายวงกว้างขึ้น 3)การจำหน่ายสินค้าอุปโภค – บริโภค ยังค้าขายได้ตามปกติแต่ขอให้ซื้อกลับไปรับประทานที่บ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการชุมนุม  4) ผู้ประกอบการห้ามกักตุนสินค้า หรือค้าขายกำไรเกินควร หากพบจะดำเนินคดีทางตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดทันที ผู้พบเห็นข้อมูลในเรื่องของการขายสินค้าเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด