"ซีพี" ระดมหัวกะทิทั้งเครือ สร้างโรงงานหน้ากากอนามัย ภายใต้คอนเซปต์ “เร็วแต่มีคุณภาพ”
18 มี.ค. 2563, 08:24
หลังจากที่ เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกลุ่มซีพี ประกาศขอเวลา 5 สัปดาห์ สำหรับการสร้างโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย ภายใต้งบ 100 ล้านบาท เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย ด้วยการ “แจกฟรี” ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนที่ขาดโอกาสในการเข้าถึงหน้ากากอนามัย
ผ่านไป 1 สัปดาห์ ทางกลุ่มซีพีอัพเดทความคืบหน้าโครงการ ผ่านเว็บไซต์ we are cp ถึงภารกิจในการสร้างโรงงานนั้น ต้องรวมหัวกะทิในเครือซีพีมาเร่งสร้างให้เกิดขึ้นภายใต้คอนเซปต์ “เร็วแต่มีคุณภาพ” ทำให้ต้องออกแบบ และก่อสร้างในมาตรฐานห้องคลีนรูมหรือห้องปลอดฝุ่น
ซึ่งการก่อสร้างครั้งนี้ ได้ใช้ผู้เชี่ยวชาญ วิศวกรที่เชี่ยวชาญจากบริษัท เกษตรภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด เป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ที่ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2508 รวมระยะเวลามากกว่า 50 ปี ซึ่งถือว่าสร้างโรงงานมาแล้วครอบคลุมกว่า 14 ประเทศ มากกว่า 140 โรงงาน ซึ่งภารกิจในครั้งนี้จะมาเป็นผู้ออกแบบและก่อสร้าง มีมาตรฐานสากล และที่สำคัญคือต้องผลิตให้ได้ใน5 สัปดาห์
ซึ่งมี คุณศักดิ์ชัย บัวมูล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร CPF ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมการผลิต เป็นวิศวกรมากประสบการณ์ ในแวดวงการผลิตมาหลายสิบปี มาเป็นผู้รับผิดชอบในฐานะหัวหน้าสายงานด้านวิศวกรรมและการออกแบบกระบวนการผลิตของโรงงาน
โดยนายศักดิ์ชัย กล่าวว่า พวกเรามีความภาคภูมิใจมากที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำภารกิจเพื่อชาติ ซึ่งท่านประธานอาวุโสธนินท์เน้นย้ำเสมอว่าต้องทำเร็วและต้องมีคุณภาพ เราจึงต้องใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน ทั้งนี้ การออกแบบได้เริ่มต้นทันทีในสัปดาห์ที่ผ่านมา เราต้องทำงานควบคู่กันหลายอย่างในเวลาจำกัด และต้องทำงานตลอดทั้งช่วงเช้าและค่ำตลอด 24 ชม. เพราะเราต้องใช้สรรพกำลังในการเคลียร์สถานที่ให้พร้อมในการก่อสร้าง หลังจากนั้นต้องทำการเตรียมติดตั้งลิฟท์โดยสาร และลิฟท์ขนของให้เสร็จ ซึ่งเราได้ใช้เวลาในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับปรุงช่องติดตั้งลิฟท์ ปรับอาคารด้านหน้า ปรับปรุงหลังคาเหล็ก และติดตั้งระบบไฟทั้งหมด และที่สำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้ออกแบบห้องคลีนรูมเสร็จสิ้น และเริ่มต้นในการสั่งของแล้ว ซึ่งในวันนี้จะเป็นการเร่งก่อสร้างในส่วนของห้องคลีนรูมให้เสร็จในสัปดาห์นี้
สำหรับการผลิตในครั้งนี้ ซีพีได้ใช้เครือข่ายจากหลายประเทศในการหาเครื่องจักร มาใช้ในการผลิต ซึ่งเครื่องจักรขนาดใหญ่เหล่านี้ต้องใช้เวลาในการผลิตอย่างน้อย 5 สัปดาห์ แต่ด้วยการเป็นซีพี ทำให้เร่งกระบวนการผลิตเครื่องจักรเสร็จใน 4 สัปดาห์ และต้องใช้ความสามารถในกระบวนการนำเข้าให้ทันเวลา ซึ่งการเตรียมเอกสารทั้งหมดคือความท้าทาย โดยมีทีมงานช่วยจัดการด้านพิธีการเอกสารต่างๆในการนำเข้าเครื่องจักรก็ต้องทำควบคู่กันไป ในขณะที่วัตถุดิบที่หายากอย่างฟิลเตอร์ ก็ต้องประสานงานไปยังหลายประเทศเพื่อนำเข้า ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความท้าทายอย่างมากในเวลาที่จำกัด
ทั้งนี้ คุณภูมิชัย ตรัยดลานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เกษตรภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด ซึ่งรับผิดชอบด้านการก่อสร้างโรงงานหน้ากากอนามัย กล่าวว่า โรงงานนี้ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของบริษัท เกษตรภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด ในย่านพระประแดง โดยปัจจุบันได้ผ่านขั้นตอนการเทพื้นใหม่ได้เสร็จสิ้นไปแล้ว เพื่อให้เป็นลักษณะปลอดฝุ่นตามมาตรฐานการผลิต ซี่งมี 5 ขั้นตอน ได้แก่
ขั้นตอนแรก คือ 1. การเตรียมผิว 2.ขั้นตอนการทาสีรองพื้นอีพ็อกซี่ (Epoxy primer)3.ขั้นตอนการทาสีชั้นกลาง (Midden Coat)4.ขั้นตอนการเก็บการละเอียดผิวก่อนลงสีอีพ็อกซี่ชั้นทับหน้า (Epoxy Putty) 5.ขั้นตอนการลงสีทับหน้าชั้นสุดท้าย (Top Coat )
สำหรับในสัปดาห์ต่อไปจะเป็นเรื่องการประกอบห้องต่างๆ ตามที่ได้ออกแบบไปแล้ว รวมถึงการเตรียมการด้านระบบสื่อสาร เนื่องจากซีพีไม่เคยผลิตหน้ากากอนามัยมาก่อน ทำให้ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกมาให้คำแนะนำ ผ่านระบบ Tele-conference ประชุมทางไกล รวมถึงเครื่องจักรที่นำเข้าจะเป็นแบบออโตเมติก ดังนั้น จะเชื่อมโยงแบบ IOT ทำให้กลุ่มทรูเริ่มเข้ามาวางระบบสื่อสาร ทั้งแบบมีสายและไร้สาย ซึ่งจะทำให้ทราบความเคลื่อนไหวของเครื่องจักรทั้งหมดผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์
นอกจากนี้ทีมงาน พนักงาน วิศวกรทั้งหมด ที่ทำงานหามรุ่ง หามค่ำ ยังได้อาหารสำเร็จรูปแช่แข็งจาก ซีพีเอฟ และ ซีพีแรม มาเติมพลังในการก่อสร้างตลอด ทำให้ต้องมาเร่งลุ้นให้กำลังใจทีมงานภารกิจสำคัญเพื่อชาติ ว่าจะเสร็จได้ทัน 5 สัปดาห์หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ทุกคนที่เข้ามาทำเต็มด้วยรอยยิ้มและความทุ่มเท เพราะรู้ดีว่า หน้ากากทุกชิ้นจากโรงงานจะถึงมืคนไทยฟรี ทำให้บรรเทาความทุกข์คนไทยจากภัยโควิค19 ได้ไม่มากก็น้อย