ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2563 ร.ต.อ.สัมพันธ์ หมื่นพินิจ พนักงานสอบสวน ส.ภ.เสาไห้ อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ได้รับแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตอยู่ในบริเวณวัดสูงเสาไห้ จึงได้ไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจุดเสาไห้ บริเวณในวัดเป็นที่กว้าง สำหรับจอดรถบัส รับ-ส่ง พนักงานโรงปูนหลายที่ ซึ่งจะมาจอดรวมกันเป็นจำนวนหนึ่ง และยังพบผู้เสียชีวิตนอนหงายตายอยู่ข้างรถบัส สีน้ำเงิน ทะเบียน 30-1120 สระบุรี ที่ข้างรถเขียนว่า “ภารดี การท่องเที่ยว” ซึ่งเป็นรถรับส่ง-พนักงานโรงปูนแห่งหนึ่ง อ.แก่งคอย ตรวจสภาพศพ เนื้อตัวมอมแมมเต็มไปด้วยน้ำมันเครื่อง สวมกางเกงขายาวสีดำ ไม่สวมเสื้อ สวมแว่นตายกขึ้นไว้บนหน้าผาก มีรองเท้าแตะตกอยู่ข้างๆผู้เสียชีวิต 1 คู่ และมีประแจ, ไขควง และเครื่องมือช่าง 2-3 ชิ้นตกอยู่ ทราบชื่อ นายรณกร เปียทอง อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของรถบัส มีรถวิ่ง 17 คัน ไว้รับ-ส่งพนักงานโรงปูนแห่งหนึ่ง 

 

 

 

 

          เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถาม นายเสกสรร รัดสุข อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถบัสของผู้ตาย เล่าให้ฟังว่า ตอนเช้า ตนเองได้ขับรถกลับมาจากรับ-ส่งพนักงานโรงปูนแห่งหนึ่งที่ อ.แก่งคอย ตนได้นั่งกินข้าวอยู่กับเพื่อน 2 คน และกำลังจะไปเอาโทรศัพท์ที่รถคันดังกล่าว ก็เห็นผู้ตายนอนทับแบตเตอรี่อยู่ข้างรถ จึงได้เข้าไปจับตัวผู้ตายเพื่อจะช่วยเหลือ แต่ไฟยังช็อตมาถึงตนเองดังปั๊บๆ จึงได้ลากผู้ตายลงมาข้างล่าง และช่วยปั๊มหัวใจอยู่นาน แต่ปั๊มยังไงก็ไม่ขึ้น ตนเองไม่ได้ตั้งใจมาดูผู้ตาย แต่จะเดินมาเอาโทรศัพท์ที่รถ ก่อนที่ผู้ตายจะโดนไฟช็อต ยังวิ่งเล่นหรือเดินอยู่แถวนี้ๆ ยังพูดคุยกันอยู่ตามปกติ ผู้ตายไม่ได้ขับรถคันนี้ ตนเองได้บอกกับผู้ตายว่ารถคันนี้ไม่ติดนะ ผู้ตายก็เลยมาซ่อมให้ จนผู้ตายโดนไฟแบตเตอรี่รถช็อต 2 ลูก แรงถึง 24 โวตต์ ผู้ตายมาซ่อมไดร์สตาร์ท เพราะมันพังสตาร์ทไม่ติด แกทำอยู่คนเดียว ตอนที่เกิดเหตุไม่มีคนเห็น ผู้ตายมีรถทั้งหมด 17 คัน สาเหตุน่าจะเกิดจากการหน้ามืดหรืออาจจะรื่น เพราะดินเปียกน้ำและเลยล้มทับไปที่แบตเตอรี่ทำให้เกิดไฟช็อตตัวตายดังกล่าว

          ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนหาสาเหตุการตาย ของ นายรณกร เปียทอง เจ้าของรถ อีกครั้งหนึ่งว่าเกิดจากอะไรกันแน่ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างนำศพผู้เสียชีวิตไปไว้ที่ รพ.เสาไห้ เพื่อให้หมอชันสูตรศพ และรอญาติมาติดต่อ ต่อไป