เวลา 08.00 น. วันนี้ 16 มี.ค.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่เทศบาลซอย 7 ต.เกาะโพธ์ อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี นายประมวล เอมเปีย อดีต ส.ส.ชลบุรี เดินทางพร้อมคณะ นำหน้ากากอนามัยจำนวน 6,000 ชิ้น จำนวน 3,000 ชุด ๆ ละ 2 ชิ้น เข้ามาแจกจ่ายฟรี ให้ชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้า ที่หน้าตลาดเกาะโพธ์ โดยมีชาวบ้าน ทั้งผู้ใหญ่เด็ก พนักงานโรงงาน พ่อค้าแม่ค้า ชาวนาชาวไร่ จำนวนหลายร้อยคน มาเข้าแถวรับหน้ากากอนามัยกันแบบดีใจ

เนื่องจากหน้ากากอนามัยที่นี่ ชาวบ้านหาซื้อกันไม่ได้ หาซื้อได้แบบหน้ากากผ้า ซึ่งชาวบ้านก็บอกว่า ไม่มีความปลอดภัย ไม่เหมือนชนิดหน้ากากอนามัยชนิดนี้ ก็มีความปลอดภัยถูกหลักอนามัย ใช้แล้วทิ้ง ซึ่งป้องกันการติดเชื้อได้ดีกว่าชนิดผ้า

นายประมวล เอมเปีย ชาวจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ตนเห็นว่า หน้ากากอนามัย เป็นที่ต้องการของชาวบ้าน ซึ่งขาดแคลนเป็นจำนวนมาก ตนจึงให้ผู้รู้จักที่ต้องการร่วมทำบุญ หามาให้ จนกระทั่งรวบรวมได้ จึงนำมาประกาศให้ชาวบ้าน รู้แล้วก็นำมาแจกจ่ายฟรี โดยให้นำบัตรประชาชนมารับคนละ 1 ชุด ๆ ละ 2 ชิ้น บางคนผู้เฒ่าผู้แก่ ก็กลัว ก็ให้บุตรหลานมารับแทนได้ พร้อมกับเข้าไปแจกในตลาดอีกด้วย

นาย ประมวล กล่าวว่า ในเรื่องการปิดเสถาบันเทิงทั่วประเทศ ตามที่ นาย อนุทิน ชาญวีระกุล รมว.สาธารณสุข ได้บอกว่า จะประชุม ครม. เพื่อขอปิดสถานบันเทิงทั่วประเทศนั้น ตนเห็นว่า ไม่สมควรจะปิด เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ต้องควบคุมป้องกันตั้งแต่ต้นเหตุ ไปควบคุมให้สถานบันเทิงให้ไปทำการป้องกันผู้ที่เข้าไปใช้บริการอย่างเข้มงวด เพราะหากปิดไปแล้ว ทางเจ้าของผู้ประกอบการก็จะเดือดร้อน จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายหนี้ ที่ต้องกู้ธนาคารบ้าง นอกระบบบ้าง จะเอาที่ไหนมาจ่าย และบรรดาพนักงานก็จะมีเงินที่ไหนเลี้ยงดูใช้จ่ายในครอบครัว

ตนคิดว่า หากจะปิดสถานบันเทิงทั่วประเทศจริง รัฐบาลต้องเยียวยาพนักงานของร้านที่ปิดทั้งหมด รวมถึงรัฐบาลต้องเอาเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย 1 ปี ให้กับผู้ประกอบการ เพื่อนำไปใช้หนี้ต่าง ๆ

ขณะนี้ รัฐบาลยังมีความเฉื่อยแฉะ แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ดี พวกพ่อค้าแม่ค้า ชาวนาชาวไร่ ยังลำบากค้าขายกันไม่ได้ จะล้มละลายกันหมดแล้ว ดังนั้น ตนคิดว่า การปิดสถานบันเทิง เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกจุด เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุมากกว่า อยากให้วางมาตรการ ป้องกันควบคุม ไม่ให้โรคแพร่ระบาดต้นทางจะดีกว่า กล่าวในที่สุด

ส่วนพ่อค้าขายปลา ในตลาดเกาะโพธิ์ ก็บอกว่า ไม่เห็นด้วย ที่จะปิดสถานบันเทิงทั่วประเทศ เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ควรที่จะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คือ ต้องป้องกันและตรวจสอบ ทั้งคนไทยและต่างประเทศ ที่จะเข้ามาในเมืองไทยอย่าละเอียด และต้องสงสัยหรือเสี่ยงต่อโรคให้ไปหาแพทย์ และกักตัวไว้ 14 วันจนหาย หรือคนที่ไปต่างประเทศกลับมา ทุกคนจะต้องโดนกักตัวไว้สถานที่เป็นกำกนดไว้อย่างเด็ดขาด

ตอนนี้ พอมีเรื่องระบาดอยู่บ้าง กลับจะแก้ปัญหาการปิดสถานบันเทิง ทำให้มีความเดือดร้อน ทั้งผู้ประกอบการ และพนักงาน ที่จะต้องกินต้องใช้ ให้ลำบากไปกว่าเดิม