วันที่ 15 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุมีคนเผาตัวเองฆ่าตัวตาย อยู่ภายในบ้านเลขที่ 93 บ้านดงล้ำพัฒนา หมู่ 14 ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.ชินาธิป บัวเข็ม รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี จึงออกไปสอบสวนเหตุ พร้อมด้วย แพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และ อาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี

 

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวสภาพเก่า ภายในแบ่งกั้นเป็นห้องนอน ตรวจสอบภายในห้องนอนห้องที่ 2 พบร่างของ น.ส.วิภารัตน์ โยธะคง อายุ 36 ปี อยู่ที่ 85/12 ถ.เชิดสมบัติ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เสียชีวิตอยู่บนที่นอนขนาด 6 ฟุต ที่วางบนพื้นห้อง บนเตียงนอนช่วงติดฝาผนัง ที่มีร่องรอยถูกไฟเผา มีรอยเขม่าควันไฟสีดำติดอยู่ที่ข้างผนังห้อง โดยมีร่างของผู้เสียชีวิตนอนตะแคงคว่ำหน้าบนที่นอน เสื้อผ้าและกางเกงด้านหลัง ถูกไฟไหม้ละลายติดตามร่างกาย ตรวจสอบไม่พบน้ำมันเชื้อเพลิง คาดว่าผู้ตายคงจะจุดไฟเผาผ้าห่ม แล้วคลุมร่างตัวเองไว้ จนถูกไฟไหม้เสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ได้นำศพไปที่โรงพยาบาล เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

 

นางเล็ก โสทะหา อายุ 60 ปี อยู่ที่ 93 บ้านดงล้ำพัฒนา หมู่ 14 ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี แม่ของผู้เสียชีวิต ทราบข่าวได้เดินทางมา ดูร่างของลูกสาวด้วยความเสียใจ ที่ไม่คิดว่าลูกสาวมาคิดสั้นอย่างนี้ โดยบอกว่า ตนมีลูก 5 คน ผู้ตายเป็นคนสุดท้อง ปกติเขาจะอยู่บ้านในเมือง ที่ผ่านมาลูกสาวเคยทำงานโรงงานทำเฟอร์นิเจอร์ แล้วออกจากงาน จึงมาอยู่กับตนที่บ้านหลังนี้ มาช่วยตนทำงานอยู่ วันก่อนก็ยังช่วยตนทำงานเป็นปกติ ไม่ได้บ่นว่าเครียดอะไร วันนี้พี่สาวเขากลับมาก็ยังเห็นดีดีอยู่ ที่ผ่านมาตนก็เคยดุด่าลูกว่า ถ้าไม่หางานทำก็จะให้ไปทำพาสปอร์ตไปหาทำงานต่างประเทศกับพี่ชายเขา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนเกิดเหตุตนทำงานอยู่ที่ใกล้ ๆ สนามบิน แล้วพี่สาวเขาก็โทรมาบอกว่าน้องเผาตัวเอง เพราะคนข้างบ้านโทรไปบอกพี่สาวเขาว่าที่บ้านไฟไหม้ ซึ่งพี่สาวเขาก็คิดว่าไฟไหม้บ้านไม่คิดว่าลูกคนเล็กจะฆ่าตัวตาย แต่สาเหตุนั้นตนไม่รู้จริง ๆ เพราะลูกจะเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่เมื่อก่อเหตุแบบนี้คงเพราะเขาไม่มีงานทำ ก่อนหน้าเขาบอกว่าจะไปขายของ แต่ก็ไม่ได้ไปขาย เขาก็บ่นเรื่องนี้ แต่วานนี้เขาก็ไปช่วยตนทำงานอยู่ ก็ไม่เห็นว่ามีอาการผิดปกติอะไร ไมได้ซึมเศร้า ไม่ได้บ่นอะไรเลย ไม่รู้จริง ๆ ว่าเพราะอะไร ทำให้คิดสั้นอย่างนี้

 

ด้าน น.ส.ลัดดา โยธะคง อายุ 39 ปี พี่สาวของผู้ตาย บอกว่า ก่อนเกิดเหตุตนเพิ่งออกจากบ้านไปทำธุระ ยังบอกกับน้องว่า พี่จะออกไปทำธุระเดี๋ยวจะกลับมา ไปส่งหลานอีกคนหาแม่เขา ตอนจะออกไปยังบอกให้น้องปิดประตูหน้าบ้าน ไมได้คิดว่าน้องจะมาตัดสินใจอย่างนี้ ส่วนเรื่องที่น้องเขาเครียดเรื่องอะไร ตนก็ไม่รู้ วานนี้ก็บอกแต่ว่าจะกลับบ้าน แม่ก็บอกว่าจะกลับไปทำอะไร พอกลับมาก็ปิดประตูอยู่แต่ในห้อง ไม่ได้ออกมาพบใคร ตนก็เข้านอนตามปกติ ปกติทุกวันตนจะอยู่กับน้อง แต่วันนี้ตนออกไปกับแม่ตั้งแต่เช้า และเขาก็เป็นคนไม่ค่อยพูด จึงไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไร แล้วก็จะเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ใครถามอะไรก็ไม่เคยบอก แฟนน้องก็ไม่มี เลยไม่ทราบว่าเพราะเรื่องอะไร น้องจึงมาคิดสั้นอย่างนี้ ถ้าใช่คงจะเป็นเรื่องน้องที่กำลังตกงาน