นักดำน้ำที่เคยผ่านการอบรมฝึกดำน้ำลึกมาแล้วกว่า 50 คน นำอุปกรณ์ในการดำน้ำ มาร่วมกิจกรรมเก็บขยะใต้ท้องทะเลระยอง ร่วมกับบริษัทซีคิงเสม็ด2020จำกัด อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ด และประชาชนจิตอาสา รวมกว่า 120 คน เดินทางมาขึ้นเรือพร้อมกันที่ท่าเรือเพ มุ่งหน้าสู่อ่าวสับปรด เกาะเสม็ด ต.เพ อ.เมือง ระยอง จุดมุ่งหมายคือทำกิจกรรม เก็บขยะใต้ท้องทะเลพร้อมกับเรือที่ลอยลำรอรับขยะ จำนวน 9 ลำ

 

นายปณต เลาหะพันธุ์ นักดำน้ำจิตอาสา กล่าวว่า พอได้ทราบว่า มีกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะ ก็เต็มใจมาช่วยเพราะการเก็บขยะใต้ท้องทะเล จะช่วยให้ทะเลไทยใสสะอาด แม้ว่าตัวเองจะไม่ใช่คนที่บ้านเพ แต่ก็อยากมาช่วยให้ทะเลที่บ้านเพสวยงามและถ้าเก็บขยะใต้ทะเลขึ้นมาได้มากก็แสดงให้เห็นว่าต่อไปทั้งชาวบ้านเพ ชาวระยอง และนักทอ่งเที่ยวต้องช่วยกันรณรงค์ไม่ทิ้งขยะในทะเลต้องมีจิตสำนึกในการดูแลรักษาท้องทะเลให้มากกว่านี้อีก

 

นายอชิต สิทธิชัย ครูสอนดำน้ำสคูบ้า เปิดเผยว่า การดำน้ำเก็บขยะใต้ท้องทะเล เป็นการดำน้ำที่เสียงอันตรายเพราะต้องดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเลลึก ดังนั้นผู้ที่มาร่วมกิจกรรม และลงดำน้ำต้องผ่านการฝึกฝนเรียนดำน้ำมา มีใบอนุญาติการดำน้ำเพื่อความปลอดภัยของผู้มาดำน้ำส่วนผู้ที่ไม่ได้ผ่านอบรมดำน้ำก็ช่วยเก็บขยะที่อยู่ริมชายหาด และช่วยคัดแยกขยะที่นักดำน้ำเก็บขึ้นมา และขอฝากไปยังประชาชนและนักทอ่งเที่ยว อย่าทิ้งขยะลงทะเลเพราะนักดำน้ำที่จะมาช่วยเก็บขยะใต้ทะเลมีจำนวนไม่มากนัก จึงต้องช่วยกันรักษาท้องทะเลเพื่อให้ใสสะอาดอยู่จนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน

 

นางสาวอรุชา ฟ้าประทานชัย สมาชิกชมรมบ้านเพทะเลเรา กล่าวว่า มีความรู้สึกดีที่ได้มาทำกิจกรรมอันเกิดประโยชน์กับท้องทะเลบ้านเรา ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่มีนักท่อเที่ยวน้อยจากสถานการณ์โรคระบาด พวกเราจิตอาสาก็มาช่วยกันทำความสะอาดทะเล เพื่อรอรับนักท่องเที่ยวเมื่อทะเลสวยงาม สะอาดตาไม่มีขยะ นักท่องเที่ยวก็จะกลับมา เศรษฐกิจก็จะดีตามมา

 

ซึ่งขยะที่เก็บได้ในวันนี้มีปริมาณมากกว่า 1 ตัน ขยะส่วนใหญ่เป็นพวกขวดแก้ว โฟม ขวดพลาสติก จิตอาสาได้นำขยะทั้งหมดขึ้นเรือ นำกลับมายังฝั่ง เข้าสู่กระบวนการคัดแยก ส่วนหนึ่งกำจัดอย่างถูกวิธี ส่วนหนึ่งนำรีไซเคิลให้เป็นของใช้เกิดประโยชรน์ โดยกิจกรรมครั้งนี้ก่อให้เกิดประโยชน์ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งปะการังธรรมชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางทะเลและเป็นการปลูกจิตสำนึกให้แก่คนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล อีกทั้งเป็นการตอบสนองนโยบายในการฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวของรัฐบาลด้วย