วันนี้ 12 มี.ค. 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายนิพนธ์ พัฒนกิจเรือง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี  เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ชาวจังหวัดกาญจนบุรีมีการตื่นตัวเป็นอย่างมาก และให้ความสนใจติดตามสถานการณ์มากพอสมควร  ซึ่งในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่ยังไม่มีความเสี่ยงที่สูง และยังเป็นจังหวัดที่มีสภาพอากาศร้อน เนื่องจากเชื้อไวรัสโควิด-19 จะอยู่ไม่ได้ในอากาศร้อน เชื้อไวรัสนี้ชอบอาการเย็น เช่น เกาหลี อิตาลี แต่อย่างไรก็ตามในอนาคตก็อาจจะมีเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ขณะยังไม่พบเพราะมีการคัดกรองมาแล้ว รวมทั้งยังมีผู้ที่เข้าข่ายว่าอาจเป็นผู้รับเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 12 ราย สมัครใจมาตรวจที่โรงพยาบาล จากการตรวจอาการไม่มีพบเชื้อไวรัสโควิด-19 ทุกราย ขณะนี้ก็ได้ให้กลับบ้านแล้ว

 

อีกส่วนหนึ่งก็จะเป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังจากที่ได้ประกาศให้มีการสำรวจตนเองถึงอาการเสี่ยงที่อาจจะเป็นผู้ป่วยโควิด-19และให้ปฏิบัติตนตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข บางคนอยู่ใกล้สถานพยาบาลก็แนะนำให้ไปเข้ารับการบริการในโรงพยาบาลห้องแยกโรค ในระหว่างที่รอการพิสูจน์ ในส่วนที่อยู่ที่บ้านก็ให้กักกันตัวเองในบ้าน ซึ่งกลุ่มผู้เสี่ยงเกือบทั้งหมดให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่จะมีบางส่วนที่ออกไปข้างนอกตามที่ปรากฎทางโซเชียล ก็อาจจะมีพฤติกรรมเกิดจากความเคยชินในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ ทางสำนักงานสาธารณสุขก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ไปติดตามพร้อมเน้นย้ำให้ปฏิบัติตนตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ในการกักตนเองและสำรวจอาการตนเอง ในระยะเวลา 14 วัน อย่างเคร่งครัด

 

ในส่วนของประชาชนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงในการปฏิบัติตัวเบื้องต้น ให้การหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อ หรือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่แออัด สถานที่ที่มีคนจำนวนมาก ในด้านสุขลักษณะต้องดูแลตัวเองให้ดีให้แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา รักษาสุขภาพให้ดีและก็ดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลด้วยการล้างมือบ่อยๆ กินร้อน ช้อนกลาง ออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอ ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี สุขอนามัยดี                   ซึ่งช่วยได้มากได้แน่นอน เชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะไม่ป่วย

 

ส่วนการสวมใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งขณะนี้เกิดปัญหาขาดแคลนขึ้น เพราะฉะนั้นจะต้องใช้ในกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงในบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ต้องใช้เป็นอันดับแรก ถ้าบุคลากรติดเชื้อเอง ก็ต้องแพร่เชื้อต่อคนไข้ทุกคนเป็นการแพร่เชื้อที่ต้องจำกัดเอาไว้ก่อน  ส่วนกลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มคนที่มีอาการป่วยเพราะว่าคนที่แพร่เชื้อจะแพร่เชื้อไปสู่คนอื่นได้  สองกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มแรกๆที่ควรใช้และแนะนำให้ใช้

 

สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีร่างกายแข็งแรงอยู่แล้ว หากสวมใส่หน้ากากอนามัยก็อาจจะมีความคุ้มค่าน้อยกว่าการใช้ในกลุ่มเสี่ยง  ส่วนหน้ากากผ้าทุกคนสามารถทำได้และก็จัดหาได้ ก็แนะนำให้ใช้หน้ากากผ้าไปก่อน หากต้องการจะป้องกันตัวเองหรือว่าอาจจะต้องออกไปนอกบ้านก็สามารถใช้ได้ป้องกันได้ในระดับนึง เพราะว่าถ้าหากออกไปแล้วไม่ได้ไปสัมผัสกับผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยตรงจะได้รับเชื้อน้อยๆ ส่วนมากร่างกายเราต้านทานได้เพราะฉะนั้นการใช้หน้ากากผ้าก็เพียงพอ.