เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ตร. แถลงข่าวจับกุม "หนุ่มใหญ่" อ้างเคยเป็นกุ๊กอยู่ USA หลอกเหยื่อโอนเงินเข้าบัญชี สูญเงินกว่า 2 ล้านบาท


5 มี.ค. 2563, 19:24



ตร. แถลงข่าวจับกุม "หนุ่มใหญ่" อ้างเคยเป็นกุ๊กอยู่ USA หลอกเหยื่อโอนเงินเข้าบัญชี สูญเงินกว่า 2 ล้านบาท




วันนี้ ( 5 มี.ค.63 ) ผู้สื่อข่าว ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธร จ.อุดรธานี พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธ์ ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.ท.อรรคพล ยี่เกาะ สว.สส.ภ.จว.อุดรธานี ร่วมแถลงข่าวการจับกุม นายณัฐนนท์ มิ่งโอโล อายุ 37 ปี อยู่ที่ 1 หมู่ 6 ต.ดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ตามหมายจับศาลแขวงอุดรธานี ที่ จ 14/2563 ในข้อกล่าวหา “ฉ้อโกงทรัพย์” พร้อมของกลาง สมุดบัญชีเงินฝากที่ผู้เสียหายโอนเงินเข้า สำเนาการสนทนาในแอปพลิเคชั่นของโทรศัพท์มือถือ โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านพักใน จ.ชัยภูมิ

พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2563 ร.ต.ท.กรกช ทีสะคู รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจาก นายสมพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี ชาวอุดรธานี แจ้งความว่า ถูก นายณัฐนนท์ หลอกลวง โดยการให้โอนเงินช่วยปิดบัญชีเงินฝากประจำของธนาคาร มากกว่า 800 ครั้ง สูญเสียเงินไปกว่า 2 ล้านบาท จนกระทั่ง นายสมพล ทราบทีหลังว่าถูก นายณัฐนนท์ ผู้ต้องหาหลอก จึงเข้ามาแจ้งความ โดยเหตุเกิดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2562 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2563

ซึ่ง นายสมพล ได้ให้การว่า เมื่อเดือนสิงหาคม ได้รับโทรศัพท์จากญาติ ซึ่งเปิดร้านอาหารที่สหรัฐอเมริกาว่า ได้มีประกาศรับสมัครกุ๊กในเฟซบุ๊ก ต่อมามี นายณัฐนนท์ ได้เข้ามาสมัครกับทางเพจของร้านญาติ อ้างว่าเคยทำงานเป็นกุ๊กที่สหรัฐอเมริกามา 11 ปี จนได้รับ Green card หรือวีซ่าอยู่ถาวร แต่ได้เดินทางกลับมาประเทศไทยเมื่อปี 2558 ทางญาติเห็นว่ามีประสบการณ์ตรง และมีวีซ่า จึงรับ นายณัฐนนท์ เข้าทำงาน แต่นายณัฐนนท์ ได้หลอกให้ญาติโอนเงินค่าตั๋วเครื่องบินมาให้ 2 หมื่นบาท เพื่อกลับไปทำงานที่สหรัฐอเมริกา แต่แล้วไม่ยอมเดินทางไป ทางญาติเห็นว่าผิดสัญญา จึงให้นายสมพล โทรศัพท์ทวงเงินคืน

เมื่อโทรศัพท์ไปทวงเงินกับ นายณัฐนนท์ ตอนนั้นนายณัฐนนท์ ได้โอนเงินคืนให้ 1 หมื่นบาท เหลืออีก 1 หมื่นบาท ตอนนั้นตัวของ นายณัฐนนท์ อ้างว่า มีเงินฝากประจำอยู่ในธนาคารแห่งหนึ่ง 6 แสนบาท แต่ไม่สามารถเบิกถอนเงินสดออกมาได้ เพราะติดเงื่อนไขของธนาคาร โดยจะต้องโอนเงินเข้าเพื่อปิดบัญชีนั้น จึงจะสามารถถอนเงินทั้งหมดออกมาได้ และหลังจากนั้น นายรัฐนนท์ ได้ติดต่อกับทาง นายสมพล มาตลอด จนมีความสนิทสนมกันทั้งที่ไม่เคยพบกันมาก่อน จน นายรัฐนนท์ ได้เอ่ยปากให้ นายสมพล ช่วยเหลือ โดยขอให้โอนเงินเข้าบัญชีของ นายณัฐนนท์ ผู้ต้องหา เพื่อจะได้ปิดบัญชี เมื่อถอนเงินออกมา ก็จะได้คืนเงินที่ค้างญาติ 1 หมื่นบาท คืนเงินที่ นายสมพลโอนปิดบัญชีให้ พร้อมจะให้เงินตอบแทนที่ช่วยเหลือ ซี่งนายสมพล หลงเชื่อจึงโอนเงินให้

นายสมพล โอนเงินไปให้ครั้งแรก 3,500 บาท แล้วก็มีข้อความ SMS และอีเมลจากธนาคาร แจ้งว่า ปิดบัญชีไม่ทัน ไม่สามารถเบิกถอนเงินได้ และให้ นายสมพลโอนเงินให้ใหม่ พร้อมมีหมายเลขโทรศัพท์แจ้งมากับ SMS หากมีปัญหาจะสอบถาม ซึ่งเป็นเบอร์โทรศัพท์ของธนาคารแห่งหนึ่ง จนนายสมพล หลงเชื่อ เมื่อนายสมพล โอนเงินให้ไปแล้ว แต่อยากได้เงินคืน แต่ นายณัฐนนท์ ก็หลอกส่งข้อความ SMS มาให้ นายสมพล โอนเงินเข้า เพื่อที่จะได้ปิดบัญชี และมีการโอนเงินเข้าไปให้ตลอดเวลารวม 7 เดือน เป็นเงินที่โอนตั้งแต่ 500-50,000 บาท รวมมีการโอนเงินให้ไปถึง 887 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 2 ล้าน และก็ไม่เคยได้เงินคืน จนกระทั่ง นายสมพล ตรวจสอบในสังคมออนไลน์ พบว่ามีการเตือนภัยเรื่องราวในลักษณะดังกล่าว ทำให้รู้ว่าได้ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกแน่นอน จึงมาแจ้งความ แล้วทางตำรวจได้รวบรวมหลักฐาน ขอศาลอนุมัติหมายจับและเข้าจับกุม

ส่วนสาเหตุที่ นายสมพล โอนเงินให้ไปเรื่อย ๆ ทั้งที่ไม่ได้เงินคืน ที่สำคัญ นายสมพล ไม่เคยเห็นหน้า นายณัฐนนท์ เลย แต่ก็ยังคงดันทุรังโอนให้ เพราะอยากได้เงินที่โอนไปคืนเท่านั้น แต่ละครั้งก็จะมีข้อความ SMS แจ้งว่าปิดบัญชีไม่ได้ ทำให้ยังไม่ได้เงินคืน จึงอยากจะได้เงินที่เสียไปคืน และก่อนจะโอนเงินทุกครั้ง ตัวนายณัฐนนท์ ก็จะอ้างว่า โอนเงินเข้าครั้งนี้จะปิดบัญชีได้จริง ไม่ได้เป็นการหลอกลวง แต่ก็ไม่เคยปิดบัญชีได้สักครั้ง และข้อความ SMS ที่ส่งกลับมาก็เป็นข้อความและเบอร์โทรศัพท์ที่เป็นหมายเลขเหมือนเบอร์โทรศัพท์ธนาคาร ที่มีความน่าเชื่อถือ ทำให้นายสมพล หลงเชื่อ และไปหยิบยืมเงินมาจากญาติพี่น้อง และเพื่อน มาโอนให้ตามหมายเลขบัญชีที่ นายณัฐนนท์ ส่งมาให้เรื่อย ๆ แต่เมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอก เงินที่โอนไปก็มากถึง 2 ล้านบาทแล้ว

 

 

 

พล.ต.ต.นันทชาติ ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยอีกว่า เมื่อจับกุมตัว นายณัฐนนท์ มาสอบสวน ก็ยอมรับสารภาพว่า ได้หลอกลวงให้นายสมพล โอนเงินเข้าบัญชีจริง โดยตัวนายณัฐนนท์ เคยทำงานเป็นกุ๊กที่ร้านอาหารไทยในสหรัฐอเมริกาจริง แต่กลับมาประเทศไทยเมื่อปี 2558 และต่อมาติดยาเสพติด และการพนันออนไลน์ จึงวางแผนออกอุบายใช้โปรไฟล์ที่ดี มีวีซ่าอเมริกา มาหลอกลวงเหยื่อว่า มีเงินในบัญชีธนาคารแบบฝากประจำนับล้านบาท แต่ติดที่เงื่อนไขธนาคารที่ไม่สามารถถอนเงินได้ จะต้องมีการโอนเงินเข้ามาเพื่อปิดบัญชี โดยเงินที่หลอกมาได้ จะนำไปซื้อยาเสพติด เล่นการพนันออนไลน์ สร้างบ้านแต่ยังไม่เสร็จ และใช้จ่ายส่วนตัว และไม่มีเงินเหลือติดบัญชี

"พฤติกรรมของคนร้ายจะหลอกให้เหยื่อโอนเงินให้เรื่อย ๆ ที่หลอกว่าเป็นบัญชีของธนาคาร เมื่อผู้เสียหายโอนเงินไปแล้ว และอยากได้เงินคืน จนเงินที่โอนมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ กว่าจะรู้ตัวก็เสียเงินไปแล้ว เชื่อว่าจะมีผู้ตกเป็นเหยื่อมากกว่า 10 ราย จนมีการแจ้งข่าวเตือนในสังคมออนไลน์ โดยมีผู้เสียหายที่สูญเงิน 3 แสนบาท ไปแจ้งความที่ สภ.บางเสาธง จ.สมทรปราการ และยังมีหญิงสาวถูกหลอกอีกหลายราย หากผู้เสียหายถูก นายณัฐนนท์ หลอกให้โอนเงิน เหมือนในลักษณะดังกล่าว สามารถเข้าแจ้งความดำเนินคดีได้ที่สถานีตำรวจที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินการอายัดทรัพย์สิน มาคืนให้กับผู้เสียหายต่อไป" พล.ต.ต.นนทชาติ ผบก.ภ.จว.อุดรธานี กล่าว

 

 

 



 

 


/

 

 

 

 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.