เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 28 ก.พ. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตีนสะพานท่าทอง บริเวณหน้าวัดไทร ต.ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ฝั่งขาเข้าเมืองสุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งจากอำเภอดอนสัก และอำเภอกาญจนดิษฐ์ จำนวนหลาย 10 นาย นำกำลังปิดล้อมเกลี้ยกล่อม นายรัฐา หรือ หมี บุญแก้ว อายุ 33 ปี ชาวอำเภอดอนสัก ที่ขังตัวเองอยู่บนรถบรรทุก 10 ล้อ ทะเบียน 82 -2072 สุราษฎร์ธานี และจอดกลางถนนเชิงสะพานท่าทอง หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการไล่สกัด ติดตาม มาจาก พื้นที่ อ.ดอนสัก มาตามเส้นทาง ดอนสัก - กาญจนดิษฐ์ ระยะทาง กว่า 50 กิโลเมตร

 

 

ทั้งนี้ นายนรัฐา บุญแก้ว มีอาชีพขับรถบรรทุกรับจ้างและได้ไปทำงานอยู่ต่างพื้นที่ ก่อนเกิดเหตุทราบว่านางกัญญา แอบขายบ้านที่พักอาศัยพร้อมที่ดินมูลค่ากว่า 7 ล้านบาทโดยไม่ได้บอกกล่าว จึงได้เดินทางมาหาสอบถาม และเกิดทะเลาะกันอย่างรุนแรงด้วยความโมโห นายรัฐาจึงได้ถอยรถบรรทุก 10 ล้อ ชนรถยนต์กระบะของนางกัญญา ที่จอดอยู่บ้านญาติในตัวตลาดดอนสัก จนได้รับความเสียหายจากนั้นได้ขับรถหลบหนี และมีการแจ้งสกัดติดตาม จนถึงที่เกิดเหตุบริเวณเชิงสะพานท่าทอง รถคัยดังกล่าวเกิดน้ำมันหมดไม่สามารถไปต่อได้ และจอดกีดขวางการจราจรเจ้าหน้าที่จึงได้ปิดเส้นทาง ให้รถไปใช้เส้นทางขาออกเมืองแทน

 

 

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานทางญาติ และบุคคลที่ทางนายรัฐา เคารพนับถือ มาช่วยเกลี้ยกล่อม และประสานทางมารดาเข้ามาพูดคุยกัน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้เนื่องจากนายรัฐา ยืนยันต้องการบ้านหลังเก่ากับคืนมา จึงไม่สามารถ ตกลง กันได้ทำให้นายรัฐา ไม่ยอมลงจากรถและบอกว่าจะอยู่บนรถไม่ว่าตำรวจจะลากรถไปไว้ที่ใดก็ตาม ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสานหารถยกมายกรถ 10 ล้อคันดังกล่าว

 

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 02:30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้รถยก ยกรถ 10 ล้อคันดังกล่าวออกจากพื้นที่เพื่อเป็นการเปิดเส้นทางการจราจร และนำไปจอดไว้บริเวณ ริมถนนสาย ปากน้ำตาปีเมืองสุราษฎร์ธานี และให้กำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษกว่า 10 นายคอยเฝ้าตลอด ขณะเดียวกัน พันตำรวจเอกสุทธิ นิติอัครพงศ์ ผกก.สภ.ดอนสัก ก็ได้มีการเจรจากับคนขับรถ ซึ่งยังคงขังตัวเองไว้ในรถคันดัง ต่อมาในช่วงเช้า เวลา 08.30 น โดยผู้ก่อเหตุได้ยอม เจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และรับปากว่าจะลงจากรถเดินทางไป สถานีตำรวจภูธรดอนสัก เพื่อเสียค่าปรับ ข้อหาตามพระราชบัญญัติจราจรขับรถประมาทหวาดเสียวฝ่าไฟแดง ส่วนในเรื่องของความขัดแย้งภายในครอบครัวต้องให้ผู้ก่อเหตุไปพูดคุยตกลงกับแม่ของตัวเองต่อไป