"หนุ่มอุทัย" ขับกระบะชนอัดติดเสาไฟฟ้าข้างทางเสียชีวิตคาที่ แฟนสาวบาดเจ็บ
27 มิ.ย. 2562, 09:38
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.62 เวลา 22.02 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุรถกระบะชนเสาไฟฟ้าข้างทาง มีผู้บาดเจ็บติดอยู่ภายในรถ 2 ราย เหตุเกิดที่บริเวณ ถ.วงศาโรจน์ ต.อุทัยใหม่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี ซึ่งห่างจากสี่แยกไฟแดง (ที่ผู้เกิดเหตุขับออกมา) - ตรงข้ามทางเข้าวิทยาลัยเทคนิคอุทัยธานี และศูนย์ประสานงานมูลนิธิกูภัยอุทัยธานี จุดเมือง ประมาณ 100 เมตร พบเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยอุทัยธานี จุดเมือง เร่งให้การช่วยเหลือ พบรถกระบะยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีเหลืองแต่งซิ่ง หมายเลขทะเบียน สฮ 5682 กรุงเทพมหานคร ชนอัดติดกับเสาไฟฟ้า โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้บาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย ซึ่งนั่งอยู่ด้านฝั่งผู้โดยสารออกมา และนำตัวส่งโรงพยาบาลอุทัยธานี พร้อมประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยอุทัยธานี จุดอ.หนองฉาง เร่งนำเครื่องตัวถ่างเข้าช่วยผู้บาดเจ็บอีก 1ราย ซึ่งเป็นชายคนขับ ที่ร่างถูกอัดติดคากับรถและเสาไฟฟ้าข้างทาง อาการบาดเจ็บสาหัส และพบว่าตีนเสาไฟฟ้านั้นขาด จึงจำเป็นใช้ความระมัดระวังในการช่วยเหลืออย่างมาก
โดยมีทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอุทัยธานี เข้าคอยช่วยดูอาการผู้บาดเจ็บขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัย ใช้เครื่อ.ตัดถ่างนำตัวผู้บาดเจ็บออกมา พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุทัยธานี เข้าอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า ร่วมเข้าให้การช่วยเหลือ ทราบชื่อผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย คือ นายคำรน หุ่นธานี อายุ 28 ปี (หรือ เอ็ม วังครก) คนขับ บ้านเลขที่ 65/2 ม.6 ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานี และ นางสุชาดา หุ่นธานี อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 65/2 ม.6 ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยอุทัยธานี แฟนสาว (ผู้บาดเจ็บ) โดยนายคำรนฯ ได้เสียชีวิตลงในที่เกิดเหตุ (ระบุจากแพทย์เวร)
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ที่ประจำอยู่ที่ศูนย์ประสานงานนั้น เล่าว่า ในช่วงเกิดเหตุเวลาดังกล่าวนั้น รถคันเกิดเหตุซึ่งขับมาจากฝั่งเส้นศาลากลางจังหวัด และจอดติดไฟแดงตามปกติ แต่เมื่อหมดสัญญาณไฟรถคันดังกล่าวน่าจะขับออกมาด้วยความเร็ว เนื่องจากได้ยินเสียงเร่งเครื่องดังมาก จากนั้นไม่ถึง 1 นาที ก็ได้ยินเสียงดังโครม จึงได้พากันวิ่งออกมาดู และพบว่ารถคันดังกล่าวนั้นข้ามเลนถนนไปชนกับเสาไฟฟ้าจนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งสาเหตุของการเกิดเหตุที่แน่ชัดนั้น ต้องรอดูจากภาพกล้องวงจรปิดและจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อักครั้ง