"เสี่ยรับเหมา" เครียดจัด! ภรรยานอกใจไปมีชายใหม่ ดื่มเหล้าย้อมใจ ก่อนคว้าเครื่องเลื่อยยนต์วปาดคอตัวเองดับสยอง
27 ก.พ. 2563, 08:59
เมื่อเวลา 22.00 น.คืนวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 ร.ต.อ.สุพิศ ช่อผกา รอง.สว.สอบสวน สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งมีคนฆ่าตัวตายด้วยเครื่องยนต์ไฟฟ้า เสียชีวิตบริเวณบ้านพัก ในซอยบ้านแม่น้ำ ซอย 1 หมู่ 1 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จึงได้รายงานให้ผุ้บังคับบัญชาทราบ แล้วเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงษ์ขจร สุกกสังค์ ผกก.สภ.เกาะสมุย พ.ต.ต.ปราโมทย์ ขวัญเมือง สวป. ร.ต.อ.เกียรติศักดิ์ ปานเนียม รอง.สว.สส. และ แพทย์เวรโรงพยาบาลเกาะสมุย อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ทำเป็นโรงงานประกอบเฟอร์นิเจอร์ บริเวณหน้าบ้าน พบศพนายไพรัตน์ คำปัน อายุ 35 ปี ภูมิลำเนา จ.สุรินทร์ สภาพศพนุ่งกางกางขาสั้น สวมเสื้อยืด นอนหงายทับกระเป็าสะพายสีน้ำตาล ภายในกระเป๋ามีเงินสดจำนวนหนึ่ง และเอกสารต่างๆ สภาพศพสยดยอง แก่ผ้พบเห็นเนื่องจากผู้ตาย ได้ใช้เครื่องเลื่อนยนต์วงเดือนไฟฟ้า ปาดคอตัวเองทำให้หลอดลมขาดกระจุย บาดแผลเหวอะหวะ, เลือดกระจาย ที่ปลายเท้าผู้ตาย พบอาวุธที่ผู้ตายใช้ เป็นเครื่องเลื่อยยนต์วงเดือนไฟฟ้า สี่ฟ้าตกอยู่ปลายเท้า 1 เครื่อง มีคราบเลือดติดแดงฉาน
จาการสอบถามนางสาย โทนสัน อายุ 56 ปี แม่ผู้ตาย พร้อมด้วย นส วนัดดา คำปัน อายุ 36 ปี พี่สาวผู้ตาย ที่อยู่ในอากกาศเสร้าโศกเสียใจ เปิดเผยให้เจ้าหน้าที่ฟังทั้งน้ำตาว่า ผู้ตายเป็นคนดี ขยันทำงาน และรักครอบครัวมาก ซึ่งผู้ตายอยู่กินกับนางอ้อย ขอสงวนนามสกุล มาประมาณ 7 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตอายุ 6 ขวบ คลเล็กอายุ 4 ขวบ ซึ่งทั้งสองรักกันมาก แต่ต่อมาเมื่อไม่นาน นางอ้อย ได้ไปทำงานเป็นแคดดี้ ที่สนามกอล์ฟดัง แห่งหนึ่งบนเกาะสมุย และต่อมา นางอ้อยไม่ค่อยกลับมาหาผู้ตายและลูก ทำใหผู้ตายต้องนำภาพรักเก่าระหว่างตัวเองกับนางอ้อยมากอดไว้ที่หน้าอกทุกวัน เนื่องจากผู้ตายรักภรรยามาก ซึ่งนางอ้อยมักจะมาขอเงินผู้ตายบ่อยครั้ง ก่อนหน้านี้ผู้ตายให้เงินภรรยาไปจำนวน 20,000 บาท เพื่อนำไปส่งค่างวดรถยนต์ แต่ปรากฎว่านางอ้อยไม่ยอมนำเงินไปส่งค่างวดรถยนต์
และครั้งสุดท้ายก่อนเกิดเหตุ 2 วัน นางอ้อยมาหาผู้ตาย และลูกอ ผู้ตายจึงพาสี่คนพ่อแม่ลูก ไปกินข้าวกันนอกบ้าน พร้อมพูดจาหว่านล้อมให้ภรรยากลับมาอยู่บ้านกับลูก และขณะเดียวกัน ผู้ตายได้เปิดดูโทรศัพท์ของภรรยา พบว่าในโทรศัพท์มือถือของภรรยา มีภาพบาดตาบาดใจหลายภาพ เป็นภาพที่นางอ้อนภรรยา ยืนกอดกันกับชายคนใหม่ เมื่อนายไพรัตน์ ผู้ตายสอบถาม ว่าผู้ชายในภาพเป็นใคร ทำให้นางอ้อนถึงกับโมโห รีบขับรถักรยานยนต์ ออกจากบ้านพักไป พ้อมกล่าวทิ่งท้ายไว้ว่า หมดรักผู้ตายแล้ว
ต่อมา ก่อนเกิดเหตุ นางอ้อยภรรยา ได้เขียนข้อความส่งผ่านมาทางไลน์ พร้อมเอ่ยปากข่มขู่ว่า เดี่ยวจะส่งคนมาทำร้าย จึงทำให้ผู้ตายเกิดความเครียด ไม่นึก่าภรรยาจะเป็นไปได้ถึเพียงนี้ พร้อมนำเรื่องไปปรึกษานางสาย ผู้เป็นแม่ และ น.ส. วนัดดา พี่สาว ว่าภรรยาส่งข้อความมาขู่ ทำให้เครียดมามาก และผู้ตายได้เอ๋อปากกับแม่และพี่สาวว่า ฝากลูกด้วย หากตัวเองเป็นอะไรไป ซึ่งแม่ผู้ตายก็ยังกล่าวอีกว่า ลูกจะไปไหน และก็ไม่ได้เอะใจ ต่อมาเห็นผู้ตายมีอาการซึมเศร้า และไปซื้อเหล้าขามมาดื่มย้อมใจเพียงคนเดียว สักพักได้ยินเสียงเลื่อยยนต์ดังขึ้นซึ่งนึกว่าผู้ตายทำงาน แต่สักพักเห็นผู้ตายยืนถือเลื่อยยนต์วงเดือนปากลำคอตัวเอง ทำให้ทุกคนที่เห็นถึกับหวีดร้อง และนายไพรัตน์ ล้มลงไปนอนกับพื้นขาดใจตายแล้ว แจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบดังกล่าว.นายสาย และ นส.วนัดดา แม่กับพี่สาวกล่าว