เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการ อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ  นายสำรวย  เกษกุล  รอง ผวจ.ศรีสะเกษ  ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดงานเทศกาลข้าวโพดหวานและของดีศรีรัตนะ ประจำปี 2563  ซึ่ง นอภ.ศรีรัตนะร่วมกับทุกส่วนราชการ อปท.และภาคเอกชน ได้ร่วมกันจัดงานนี้ขึ้น  ระหว่างวันที่ 20 – 22 ก.พ. 63 โดยมีกิจกรรมประกอบด้วย การออกร้านนิทรรศการสินค้าโอท็อปของแต่ละหมู่บ้าน  การแปรรูปข้าวโพดของดีในท้องถิ่น การประกวดธิดาข้าวโพดหวาน การประกวดผลผลิตทางการเกษตร / ประกวดสัตว์ การประกวดขบวนแห่นางรำและขบวนวัฒนธรรม 4 เผ่าไทย มีการมอบรางวัลผู้ชนะเลิศจากการประกวด ประเภทต่าง ๆ  จากนั้น  สาวงามจาก 4 เผ่าพื้นเมืองของ อ.ศรีรัตนะ ประมาณ 500 คน ซึ่งแต่งกายด้วยชุด 4 เผ่าประกอบด้วยเผ่าส่วย ลาว  เขมร และเยอ  ได้ร่วมกันรำเปิดงานอย่างยิ่งใหญ่สวยงามตระการตาเป็นอย่างมาก  โดยมีนายอนุสรณ์   แสงกล้า  นายอำเภอศรีรัตนะ เป็นผู้กล่าวรายงานและมี นายวิทยา   วิรารัตน์  ประธานสภาวัฒนธรรม จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายสว่าง  กาลพัฒน์  เกษตรจังหวัดศรีสะเกษ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ชาว อ.ศรีรัตนะ ร่วมให้การต้อนรับและร่วมพิธีเปิดงานในครั้งนี้

นายอนุสรณ์  แสงกล้า  นายอำเภอศรีรัตนะ กล่าวว่า  อ.ศรีรัตนะ เป็นหนึ่งในกลุ่มอำเภอที่มีศักยภาพการผลิตข้าว พืชสวน พืชไร่ หรือแม้แต่ทุเรียนภูเขาไฟ โดยเฉพาะข้าวโพดหวานเป็นพืชที่สำคัญ มีพื้นที่ปลูก 1,300 ไร่ ผลผลิต 3,600 ตัน คิดเป็นมูลค่า 16 ล้านบาท ทำชื่อเสียงที่มีผลผลิตดีออกสู่ตลาดตลอดปี สร้างงาน สร้างเงิน สร้างอาชีพ สร้างรายได้และสร้างชื่อเสียงให้แก่ อ.ศรีรัตนะเป็นอย่างดียิ่ง ดังนั้น ชาว อ.ศรีรัตนะจึงได้จัดงานเทศกาลข้าวโพดหวานและของดีศรีรัตนะนี้ขึ้นมา

นายสำรวย   เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า  การจัดงานครั้งนี้นับว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดีเป็นอย่างยิ่ง  เนื่องจากว่า อ.ศรีรัตนะนี้  มีของดีมากมายทั้งผลผลิตผลทางการเกษตร สินค้าโอท๊อป  ซึ่งการจัดงานนี้  จะเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรมีความสนใจปลูกและปรับปรุงคุณภาพผลผลิตให้ได้ตรงตามความต้องการของตลาด เป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรสร้างผลผลิตโดยอาศัยตลาดนำการผลิต กระตุ้นให้เกิดการผลิต การตลาดหมุนเวียนอย่างครบวงจร จะเป็นการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ผลผลิต ผลิตภัณฑ์ของชุมชนและอำเภอให้ปรากฏแก่สายตาและความรับรู้ของมหาชน เป็นการสร้างงานและสร้างรายได้ให้มีศักยภาพ และจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชนมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย