ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เมื่อช่วงสายวันที่ 13 กุมภาพันธุ์ พ.ศ.2563 ที่ทะเลอ่าวบ้านหน้าทอน ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้มีเรือสำราญขนาดใหญ่ ชื่อเรือสำราญ Costa Fortuna (คอสต้าฟอร์จูนน่า) มาลอยลำในทะเลอ่าวบ้านหน้าทอนห่างจากชายฝั่ง ประมาณ 2 ไมล์ทะเล พร้อมนำเรือขนถ่ายจากเรือสำราญ นำนักท่องเที่ยวยุโรป ประกอบไปด้วย นักท่องเที่ยวอิตาลี, เยอรมัน และอเมริกา จำนวน 3,000 คน ที่เดินทางมาจากประเทศสิงคโปร์ ทยอยขึ้นมาจากเรือขนถ่าย โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อำเภอเกาะสมุย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเทศบาลนครเกาะสมุย นำอุปกรณ์ เช่น เครื่องเทอร์โมสแกน และเครื่องวัดอุณหภูมิความร้อน พร้อมเจลทำความสะอาด และทำการคัดกรองนักท่องเที่ยว ก่อนที่ออกจากเรือสำราญ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารเรือขึ้นไปร่วมสังเกตุการณ์บนเรือสำราญ

 

          ภายหลังจากที่ เรือขนถ่ายนำนักท่องเที่ยวขึ้นมาถึงฝั่ง ซึ่งพบว่า ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวยุโรปมากันเป็นครอบครัว และได้มีผู้ประกอบการท่องเที่ยว นำรถบัส และรถตู้ ขึ้นไปรอรับ เพื่อนำนักท่องเที่ยวไปเที่ยวรอบเกาะสมุย ขณะที่นักท่องเที่ยว ที่ไม่ขึ้นไปกับรถบัส และรถตู้ ผู้ประกอบการ รถแท็กซี่ รถสองแถว ได้นำรถยนต์ มาให้บริการ ซึ่งนักท่องเที่ยวก็ได้ใช้บริการไปยังจุดต่างๆ ท่องเที่ยวในเกาะสมุย ขณะที่นักท่องเที่ยวอีกจำนวนมาก เดินช็อปปิ้ง บริเวณตลาดบ้านหน้าทอน บางรายก็เช่ารถจักรยานยนต์ขับขี่ ทำให้บรรยากาศคึกคัก ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางมากับเรือสำราญกลุ่มนี้ จะใช้เวลาท่องเที่ยวบนเกาะสมุย ระหว่างเวลา 09.00 น.-17.00 น. ในวันเดียวกันใช้เวลา 1 วัน จากนั้นนักท่องเที่ยวทุกคน จะต้องขึ้นเรือให้หมดภายในเวลา 17.00 น. เย็นวันเดียวกัน และเรือจะออกเดินทางไปยัง แหลมฉบัง และไปเวียดนามต่อไป

 

 

          ด้าน คุณสุดา ผู้ประกอบการให้บริการทัวร์ท่องเที่ยว บนเกาะสมุย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ภายหลังจากที่เรือสำราญ ได้เข้ามาลอยลำและเทียบท่าที่เกาะสมุย ก็ส่งผลดีให้กับเกาะสมุย ทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงสั้นๆ ก็ตาม ซึ่งตนมองว่าถึงแม้ว่านักท่องเที่ยวจีนจะหายไปในช่วงนี้ แต่ตนมองว่าในส่วนของตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรปไม่ได้กระทบ ซึ่งในฐานะผู้ประกอบการอยากฝากถึงรัฐบาล ให้ส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดกลุ่มเรือสำราญ และในเรื่องของความปลอดภัย และอำนวยความสะดวก คุณสุดา ผู้ประกอบการให้บริการทัวร์ท่องเที่ยว กล่าว