วันนี้ 7 ก.พ.63. ศูนย์วิทยุ 191 เมืองสระบุรี ได้รับแจ้งว่ามี คนร้ายปีนกำแพงเข้าไปอยู่ในบ้าน เลขที่ 99/9  ม.4 ต.ปากข้าวสาร อ.เมือง จ.สระบุรี  จึงแจ้งไปยังพนักงานสอบสวนของสภ.เมืองสระบุรี ว่า ขณะนี้คนร้ายยังอยู่ในบ้าน จึงได้นำกำลังไปที่บ้านหลังดังกล่าว พบนายไซม่อน และภรรยา เป็นคนชาวเมียนมา เป็นคนเฝ้าบ้านหรู หลังใหญ่ดังกล่าว  ยืนคอยอยู่หน้าบ้าน และได้เปิดประตูให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปค้นหาคนร้าย ที่ซุกซ่อนอยู่ในบ้าน พบ คนร้ายนั่งอยู่ที่โต๊ะรับแขก คนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการขัดขืนและหลบหนี นั่งลอยหน้าลอยตาทำเป็นไม่ทุกข์ไม่ร้อนเหมือนกับเป็นเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวออกมานอกบ้าน ทราบชื่อ นายนุกูล แพงแสนสุข อายุ 53 ปี (ชื่อเล่น อึ่ง) เป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน มีบ้านพักอาศัยอยู่หลังวัดเขาแก้ว มีอาชีพตีครกหินขาย  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนเบื้องต้น นายอึ่ง ให้การวกวนไปมา พูดจาไม่รู้เรื่อง คล้ายกับคนเบลอหรือหลอน ถามอะไรก็พูดไม่ตรงกับที่ถาม 

 

จึงได้ไปสอบถาม นาย คำศร ไทยกำเนิด  ซึ่งเป็นคนรู้จักกับคนร้าย (นายอึ่ง) เล่าว่า สาเหตุที่นายอึ่ง ปีนขึ้นบ้านเกิดจากอาการหลอน เพราะแม่เขาจะนำตัวไปรักษา ที่เกิดอาการหลอนเพราะกินใบกระท่อมกับยาบ้า เสพอย่างเดียวแต่ไม่ได้ขาย ส่วนตนรู้จักกับนายอึ่ง แต่ไม่ค่อยสนิทกัน เพราะเคยตีครกหินอยู่ด้วยกัน นายอึ่งได้พักอาศัยอยู่กับแม่ แต่อยู่บ้านคนละหลัง ก่อนหน้านี้นายอึ่ง มีพฤติกรรมชอบไปทำร้ายคนอื่น เนื่องจากเกิดจากอาการหลอน 

ส่วนนายไซม่อน ชาวเมียนมา เป็นคนเฝ้าบ้าน เล่าให้ฟังว่า เจ้าของบ้านอยู่ที่ กทม. ทำธุรกิจส่วนตัว จึงได้ให้ตนและภรรยา มาเฝ้าบ้าน เหตุเกิดตั้งแต่ 7 โมงเช้า ตนยังไม่ได้ทำงาน แต่มีคนร้ายได้มากดกริ่งที่ประตูหน้าบ้าน แฟนตนคิดว่าเป็นช่าง ก็เลยเปิดประตูให้  คนร้ายได้เดินเข้าไปในบ้าน แต่ไม่ได้ทำอะไร  ตนถามว่า มาหาใคร คนร้ายบอกว่า มาหาเจ้าหญิง  ตนก็เลยไล่ออกมา พอตกเย็นก็ปีนกำแพงหลังบ้านเข้ามาอีก แต่ไม่ได้ลักของ ตนเองได้ไล่ออกไป แต่คนร้ายไม่ยอมออก ได้มาจับมือและแขนของตน ตนเองกลัวว่าคนร้ายจะทำร้ายร่างกาย จึงได้สะบัดมือออกและวิ่งหนี  เลยรีบไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านกับชาวบ้านให้มาช่วย ได้นำตัวคนร้ายออกมา ยังไม่รู้ว่าของหายหรือเปล่า ต้องรอให้เจ้าของบ้านมาตรวจสอบเอง พอตกเย็นก็ปีนเข้าหลังบ้านอีก  จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมา และนำตัวคนร้ายออกจากบ้าน  ตอนนี้เจ้าของบ้านได้โทรคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวคนร้ายไปที่ สภ.เมืองสระบุรี เพื่อไปสอบปากคำ แต่ถ้าคนร้ายยังพูดจาไม่รู้เรื่อง และยังเกิดอาการหลอน จะได้นำตัวไปส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัวให้หายก่อน และจะนำตัวมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป