เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้สื่อข่าว ONBnews รายงานว่า ที่วัดแสงสะท้อน ต.ไทรขึง อ.พระเเสง จ.สุราษฎร์ธานี  ได้มีชาวบ้านกว่า 1,000 คน ทั้งในพื้นที่และต่างพื้นที่ ได้เดินทางมารวมตัว เพื่อให้กำลังใจแสดงพลังศรัทธาที่มีต่อ พระครูโอภาส กิจสาร อายุ 50 ปี เจ้าอาวาสวัดแสงสะท้อน หลังมีการเผยแพร่คลิปเสียงคล้ายการสนทนาของหญิงชาย และรูปภาพคล้ายการแคปภาพการสนทนาทางวีดีโอคอล อ้างว่าชายในชุดผ้าเหลือง เป็น พระครูโอภาส กิจสาร โดยบรรยากาศภายในวัดแสงสะท้อน ชาวบ้านได้ทยอยเดินทางและมานั่งคุย มีการใช่เครื่องขยายเสียงขนาดเล็ก และนั่งฟังตัวแทนชาวบ้านพูด ด้วยความสงบไม่มีป้ายข้อความใดๆ ก่อนจะร่วมกันเปล่งเสียง พวกเราเชื่อมั่นในพระอาจารย์แมว ดังกึกก้องก่อนจะแยกย้ายกันกลับ โดยไม่มี พระครูโอภาส กิจสาร อายุ 50 ปี เจ้าอาวาสวัดแสงสะท้อนอยู่ที่วัดแต่อย่างใดเนื่องจากติดภารกิจของสงฆ์

 

 

 

นายสมยศ แก้วเขียว อายุ 49 ปีลูกศิษย์คนใกล้ชิด กล่าวว่าที่ชาวบ้านได้เดินทางมาให้กำลังใจ พระอาจารย์แมว ซึ่งเชื่อว่าไม่เป็นความจริง ทั้งเรื่องคลิปเสียง และภาพดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมา หากมีสิ่งใดผิดปกติ ผิดกิจของสงฆ์ ทางพระครูโอภาส กิจสาร หรือพระอาจารย์แมว จะเรียกผู้นำหมู่บ้านและคนใกล้ชิดมาบอกกล่าว อย่างก่อนหน้านี้ มีสีกา 2 แม่ลูก ได้โทรศัพท์หาพระอาจารย์แมว ตลอดเวลา ทุกวัน ทั้งในเวลาฉันท์ และปฏิบัติธรรม จนอาจารย์แมวรู้สึกว่า ผิดปกติ ก็เรียกพวกตนมาปรึกษาหารือกัน ซึ่งล่าสุดนั้นมีสายเข้ากว่า 170 สายต่อ 1 วัน จึงคิดว่าเป็นการกลั่นแกล้ง

 

ด้านนาย จุรี เพชรพัฒน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.ไทรขึง กล่าวว่าเชื่อว่าไม่เป็นความจริงเนื่องจากตั้งแต่เป็นฆราวาสไม่เคยยุ่งเกี่ยวเกี่ยวกับอบายมุข ชาวบ้านจึงมากันด้วยแรงศรัทธาในการเป็นพระนักปฏิบัติ 

และในกรณีที่ มีการพูดถึงป้าต้อยและลูกสาว ว่าเป็นคนปล่อยภาพและคลิปนั้น ตนเองและคนใกล้ชิดไม่ทราบว่าใช่หรือไม่ทราบเพียงแต่ว่าทั้งสองคนไม่ใช่คนในพื้นที่เป็นคนที่อยู่ ต่างอำเภอ โดยพระอาจารย์แมวยอมรับว่าภาพที่เป็นใบหน้าของท่านนั้นเป็นภาพท่านจริง เนื่องจากมีโยมผู้หญิงชอบมาทำบุญที่วัด ชื่อป้าต้อย (นามสมมติ) มักมากับลูกสาวชื่อนางสาวแอน (นามสมมติ) อายุ 26 ปี หลังจากที่ป้าต้อยกับลูกสาวมาทำบุญหลายครั้ง ก็ขอเบอร์โทรศัพท์และขอไลน์ตนเองเพื่อจะติดต่อกัน เวลาที่จะมาทำบุญที่วัด จากนั้นป้าต้อย ก็โทรมาหาตนเองวันละ 50-100 สาย อ้างว่าถ้าไม่ได้โทรมาพูดคุย ก็จะล้มป่วยจนถึงขั้นนอนโรงพยาบาล บางวันไม่รับสาย ก็ตามมาที่วัด จึงได้กดวีดีโอคอลกลับไปดูให้มั่นใจว่าไม่สบายจริงตามที่กล่าวแจ้งหรือไม่พร้อมให้คติธรรม ทั้งนี้ ส่วนคลิปเสียงคล้ายการสนทนาระหว่างหญิงชายเพื่อสำเร็จความใคร่นั้นไม่ใช่ ทั้งนี้ทั้งตนเองและชาวบ้านทั้งหมดยังเชื่อมั่นและศรัทธาในตัวพระอาจารย์แมว

ด้านนางนิภา เกื้อเดช อายุ 57 ปี  ชาวบ้าน กล่าวว่ารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นเนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยเห็นพระอาจารย์แมวปฏิบัติผิดกฎของสงฆ์ และยังเป็นพระที่มุ่งมั่นพัฒนาวัดมาโดยตลอด ซึ่งทุกคนที่เดินทางมามาด้วยความศรัทธาไม่ใช่การปลุกระดมอย่างแน่นอน

ด้านนายสมพงศ์ ชูพุด กล่างว่า พระอาจารย์แมวบอกว่า ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด เรื่องไหนเป็นความจริงมันก็คือความจริงหากมันไม่เป็นความจริงก็ไม่ต้องทุกข์ ให้ปฏิบัติดีต่อไป   ซึ่งการกระทำดังกล่าวที่เกิดขึ้นตนเชื่อว่าเป็นการกันแกล้ง เพื่อล้มล้างทางพระพุทธศาสนา ซึ่งกรรมจะต้องตามสนองในที่สุด สำหรับคนที่ทำเรื่องนี้ขึ้นมาแต่ทั้งนี้ชาวบ้านในพื้นที่รวมถึงลูกศิษย์และคนที่เคารพนับถือท่านยังคงเชื่อมั่นและเคารพนับถือท่านต่อไป

ทั้งนี้ชาวบ้านทั้งหมดรวมตัวกันประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ

สำหรับเรื่องดังกล่าว พระปลัด นนทณัฏฏ์ ชินวโร รักษาการเข้าคณะตำบลอิปันอ.พระแสง กล่าวว่า  ได้มีการตั้งคณะกรรมการส่งขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และจะรายงานผลไปยังทางคณะ สงฆ์จังหวัด ฯ ทราบต่อไป