วันที่ 29 ม.ค.63 นางอรัญญา ศริสมบัติ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87/7 หมู่ 4 ต.ปริก อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนและสามีประกอบประจำอาชีพรับจ้างแบกไม้ยางและกรีดยาง ส่วนเวลาว่างเป็นอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยใต้เต๊กตึ๊งประจำอำเภอทุ่งใหญ่ ส่วนเงินจำนวน 3 หมื่นบาทดังกล่าว ตนพบระหว่างขี่รถจักรยานยนต์กลับจากธุระ แต่ระหว่างขี่รถมาบนถนนสายทุ่งใหญ่  - หนองดี หมู่ 4 ต.ปริก ซึ่งใกล้ถึงบ้าน ปรากฏว่าสังเกตเห็นกระดาษมียางเส้นรัดเป็นบึกค่อนข้างหน้าวางอยู่กลางถนน ตนจึงจอดรถลงไปดู เมื่อหยิบกระดาษบึกดังกล่าวขึ้นมาพบว่าเป็นเงินสด มีทั้งฉบับละ 1000,500 และ100 บาท แต่ตอนนั้นยังไม่ทราบว่าเงินทั้งหมดมีจำนวนเท่าไร เนื่องจากต้องรีบกลับบ้าน จึงนำเงินดังกล่าวกลับบ้านพร้อมโทรศัพท์บอกสามี และตั้งใจให้สามีพาไปโรงพัก เพื่อนำเงินไปให้ตำรวจติดตามหาเจ้าของ กระทั้งสามีกลับมาและนับเงินมีจำนวน 3 หมื่นบาท อย่างไรก็ตามระหว่างรอสามีกลับบ้าน มีชาวบ้านแจ้งว่าเงินของนายจอมไกร สวัสดิ์วงศ์ อายุ 57 อดีตสมาชิกสภาพองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช เขตอำเภอทุ่งใหญ่ หายไป ตนจึงโทรศัพท์สอบถามนายจอมไกร ว่าเงินที่หายไปมีจำนวนเท่าไร ซึ่งนายจอมไกร บอกจำนวนเงินและลักษณะเงินที่ห่อด้วยกระดาษตรงกับเงินที่ตรงพบ จึงแจ้งกับนายจอมไกร ว่าตนพบเงินจำนวนดังกล่าว และให้มารับเงินทั้งหมดคืนที่บ้าน

นางอรัญญา เผยอีกว่า เงินจำนวน 3 หมื่นบาทที่ตนพบ ตนตั้งใจนำไปมอบให้ตำรวจ เพื่อติดตามหาเจ้าของมารับคืน เพราะสงสารเจ้าของเงินคงได้รับคาเดือดร้อน หากเงินจำนวนนี้หายไป แม้ว่าครอบครัวตนจะหาเช้ากินค่ำมีอาชีพรับจ้างแบกไม้ยางและกรีดยาง ได้ค่าจ้างวันละไม่กี่ร้อยบาท นอกจากนี้ขณะพบเงินจำนวน 3 หมื่นบาทนั้น ตนมีเงินติดตัวเพียง 200 บาทเท่านั้น แต่ก็ไม่เคยคิดจะเอาเงินของคนอื่นมาเป็นของเรา จึงตัดสินใจนำเงินดังกล่าวไปมอบให้ตำรวจติดตามหาเจ้าของ แต่ระหว่างที่รอสามี ทราบว่านายจอมไกร อดีต สจ.ทำเงินหาย ตนจึงโทรศัพท์ สอบถามรายละเอียดเงินที่หาย และตรงกับจำนวนเงินที่ตนพบ