วันนี้ 9 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรไทรโยค รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ รถยนต์กระบะชนประสานงากับรถพ่วง 18 ล้อ มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสายไทรโยค-ทองผาภูมิ บริเวณหน้าวัดท่าทุ่งนา หมู่ 2 ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรีและแพทย์เวรโรงพยาบาลสมเด็จพระปิยะมหาราชรมณียเขต ในที่เกิดเหตุ พบรถพ่วงสิบแปดล้อ หมายเลขทะเบียน 82-8438 กาญจนบุรี จอดอยู่ริมถนน ที่บริเวณด้านหน้ารถพ่วงพบรถยนต์กระบะแต่งซิ่ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีดำ หมายเลขทะเบียน บษ 6432 สุพรรณบุรี ชนอัดติดกันอยู่ ภายในรถยนต์กระบะ พบร่างของผู้เสียชีวิตติดอยู่ 2 ราย

 

เจ้าหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างนำร่างออกมาอย่างทุลักทุเล เนื่องจาก รถยนต์กระบะชนอัดติดกับด้านหน้ารถพ่วงอย่างจังจนพังยับทั้งคัน เมื่อนำร่างของผู้เสียชีวิตออกมาได้ จึงพบว่าผู้เสียชีวิตทั้งสองคน เป็นสามีภรรยากัน ทราบชื่อ คือ นายวันทอง ไม่มีนามสกุล อายุ 27 ปี และ นางสาวภาริณี มีใย อายุ 21 ปี จากการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ เห็นรถพ่วงคันดังกล่าวขับมาจากทางอำเภอทองผาภูมิ มุ่งหน้าอำเภอไทรโยค เป็นช่วงเดียวกันกับที่รถยนต์กระบะคู่กรณี ขับมาด้วยความเร็วสูงจากทางอำเภอไทรโยคมุ่งหน้าอำเภอทองผาภูมิ เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ จู่ๆรถยนต์กระบะก็เกิดเสียหลักรถหมุนคว้างข้ามเลน พุ่งเข้ามาหารถพ่วงที่ขับสวนทางมา ก่อนจะชนประสานงาเข้าอย่างจัง หลังเกิดเหตุ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ พยายามเข้าช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในรถยนต์กระบะ แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้และพบว่าทั้งสองคนเสียชีวิตคาซากรถคันดังกล่าว

 

ด้านนายวิรัตน์ น้อยทา อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถพ่วงสิบแปดล้อ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุ ตนเห็นรถคู่กรณี เสียหลักพุ่งข้ามเลนมาด้วยความเร็ว ตนพยายามเบรกรถแต่ก็ไม่ทัน ทำให้พุ่งชนประสานงาเข้ากับรถยนต์กระบะอย่างจัง จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสองคนดังกล่าว

 

ด้านพันตำรวจโทบัญญัติ ไชยโกฎิ รองผู้กำกับสืบสวน สถานีตำรวจภูธรไทรโยค กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์หลายคน ต่างพูดเหมือนกันว่า รถยนต์กระบะเกิดเสียหลักจนรถหมุนข้ามเลนมาชนกับรถพ่วงสิบแปดล้อ ซึ่งก็จะต้องมีการสอบปากคำ คนขับรถสิบแปดล้ออย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงตรวจสอบให้แน่ชัดว่าสาเหตุที่รถยนต์กระบะเกิดเสียหลักมาจากความประมาทของคนขับหรือมาจากการหักหลบรถคันอื่นหรือไม่ต่อไป