เปิดตำนานจระเข้ "เจ้าแม่กุลา - เจ้าพ่อวิไลลักษณ์" เแห่งคลองหนองรี สถิตย์อยู่ในถ้ำใต้ต้นสะตือใหญ่ อายุกว่า 100 ปี (มีคลิป)
8 ม.ค. 2563, 08:41
วันที่ 7 ม.ค. 63 ศาลเจ้าแม่กุลา เจ้าพ่อวิไลลักษณ์ ตำนานจระเข้เจ้าพ่อเจ้าแม่แห่งคลองหนองรี แม่น้ำที่มีจระเข้อยู่ในถ้ำใต้ต้นสะตือใหญ่ อายุกว่า 100 ปี ที่บริเวณริมถนน หมู่ที่ 4 ตำบลบ่อแร่ อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง เป็นศาลไม้เก่าหลังคาสังกะสี ตั้งเสาไม้พื้นยกสูงจากพื้นดิน 1 เมตร กว้าง 1.20 เมตร ยาว 2 เมตร มีเครื่องเซ่นไหว้จำนวนมากเต็มศาล อยู่บริเวณโคนต้นโพธิ์ใหญ่อายุกว่า 100 ปี ที่ชาวบ้านหลายคนเรียกว่าต้นสะตือ อยู่ริมคลองหนองรีขนาดใหญ่กว้างกว่า 100 เมตร ที่มีเรื่องเล่าขานในอดีตว่าเป็นวังที่อยู่อาศัยของจระเข้จำนวนมาก ลอยโผล่ออกมาให้ชาวบ้านเห็นอยู่เป็นประจำ
ด้านนายโอภาส พ่วงดี อายุ 70 ปี ชาวบ้าน เล่าให้ฟังว่า ศาลเจ้าพ่อวิไลลักษณ์ เจ้าแม่กุลา ตั้งอยู่ที่บริเวณโคนต้นสะตือขนาดใหญ่ อายุกว่า 100 ปี ที่ปัจจุบันนั้นกลายเป็นต้นโพธิ์ขนาดใหญ่อยู่ริมคลองหนองรี เป็นที่สิงสถิตของจระเข้จำนวนมาก ในอดีตที่ผ่านมามีชาวบ้านพบเห็นเป็นประจำและเป็นที่ศรัทธาของชาวบ้าน ซึ่งจะมาทำการบนบานศาลกล่าวเป็นประจำ โดยสมัยก่อนนั้นจะใช้การสัญจรไปมากันทางเรือ คลองหนองรีนั้นมีความกว้างกว่า 100 เมตร ยาวหลาย 10 กิโลเมตร ผ่านหลายตำบลเชื่อมต่อกับแม่น้ำน้อย และมีกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว เวลาเรือแล่นผ่านจะพบจระเข้โผล่ขึ้นให้เห็น ซึ่งชาวบ้านมีความเชื่อกันว่าเป็นจระเข้เจ้าที่ ที่ลือกันว่าด้านล่างต้นสะตือใหญ่นั้น มีโพลงขนาดใหญ่คล้ายถ้ำเป็นวังที่อยู่อาศัยของจระเข้ ส่วนผู้ที่เลี้ยงวัวควายนั้น หากจะให้สัตว์เลี้ยงลงน้ำข้ามคลองต้องยกมือไหว้บอกเล่าถึงจะข้ามคลองได้
ซึ่งในสมัยก่อนนั้นไม่มีถนนและสะพานข้ามคลอง ในปัจจุบันนี้เกิดประสบภัยแล้งน้ำแห้งขอดคลอง ชาวบ้านเดินข้ามได้และลงไปหาหอยหาปลาได้อย่างสะดวก ไม่พบถ้ำหรือวังจระเข้ในเรื่องที่ได้เล่าขานกันมา แต่ก็ยังมีความเคารพนับถือศรัทธาต่อเจ้าแม่กุลา เจ้าพ่อวิไลลักษณ์ ตำนานวังจระเข้เจ้าที่ เมื่อผู้ที่ขับขี่รถผ่านบริเวณต้นโพธิ์ใหญ่ ต่างต้องบีบแตรบอกเล่า พร้อมเดินทางมากราบไหว้ขอโชคลาภนำไปเสียงดวง เมื่อได้โชคลาภสมใจแล้วจะมีการนำเครื่องเซ่นมาถวาย รวมทั้งนำละครชาตรีมาทำการแก้บนกันเป็นประจำ ต่อไป