เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



เผาแล้ว 4 ศพ คดีฆ่ายกครัวเพราะหนี้สินที่อุดรฯ (มีคลิป)


6 ม.ค. 2563, 18:44



เผาแล้ว 4 ศพ คดีฆ่ายกครัวเพราะหนี้สินที่อุดรฯ (มีคลิป)




บ่ายวันนี้ (6 ม.ค.62) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่าจากกรณี นายไทยสาน ซ่อนชัย อายุ 51 ปี ลูกจ้างประจำศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติเขต 4 จ.อุดรธานี ทุบหัวฆ่า นางวัชราภรณ์ ซ่อนชัย อายุ 49 ปี ภรรยา พร้อมกับ น.ส.คชาภรณ์ ซ่อนชัย อายุ 23 ปี และ น.ส.ศศิธร ซ่อนชัย อายุ 19 ปี ลูกสาว เสียชีวิตในบ้านเลขที่ 260 หมู่ 1 ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี พบจดหมายระบายเพราะมีหนี้สิน 2 ล้าน ที่นำมาส่งให้ลูกเรียนจนจบมหาวิทยาลัย แต่ยังไม่มีงานทำ แถมรายได้มากกว่ารายจ่าย ก่อนใช้เชือกผูกคอกับต้นมะม่วงหน้าบ้าน กลายเป็น 4 ศพ เหตุเกิดเมื่อเช้าวันที่ 5 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา

 

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว บ่ายวันนี้ (6 ม.ค.63) ที่วัดป่าไผ่สีทอง บ้านเชียงหวาง ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี นายณฐพล วิถี นายอำเภอเพ็ญ เดินทางมาร่วมพิธีฌาปนกิจศพ นายไทยสาน นางวัชราภรณ์ น.ส.คชาภรณ์ น.ส.ศศิธร ซึ่งได้นำใส่โรงเย็นวางเรียงกันในศาลา โดยมีญาติ ชาวบ้าน และเพื่อนร่วมงาน และเพื่อนของลูกสาว เดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก เมื่อถึงเวลา 14.00 น. ได้นำโลงศพ นายไทยสาน ขึ้นไปวางบนเมรุ ส่วนศพนางวัชราภรณ์ น.ส.คชาภรณ์ และ น.ส.ศศิธร นำมาวางบนกองไม้ หรือเรียกว่า กองฟอน ที่ห่างจากเมรุประมาณ 20 เมตร

 

 

 

 

 

 

 



โดย นายบุญจันทร์ แสนเหมทอง อายุ 76 ปี และนางเก้า แสนเหมทอง อายุ 71 ปี ชาวบ้านบ้านคำผักหนาม หมู่ 10 ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี พ่อและแม่ของ นางวัชราภรณ์ฯ ที่อยู่ในอาการโศกเศร้า ร่วมกันเปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้นอนไม่หลับ คิดอะไรไม่ออก ได้แต่ร้องไห้คิดถึงลูกสาวกับหลานสาวทั้ง 2 คน สงสารลูกกับหลานมาก เพราะลูกสาวคนนี้ดูแลพ่อแม่เป็นอย่างดี หลานก็เป็นเด็กดี น่ารัก เมื่อเดือนธันวาคม ลูกสาวมายืมเงินพ่อแม่เพื่อไปรับปริญญาลูกสาว พวกตนก็ไปยืมญาติพี่น้องมาให้ 2 หมื่นบาท รู้สึกโกรธลูกเขยที่ตัดสินปัญหาแบบนี้ เมื่อฌาปนกิจเสร็จก็จะขอแยกอัฐิลูกสาว และหลานสาวไปเก็บไว้ที่บ้าน อีก 3 ปี รอญาติพี่น้องมาพร้อมกันจึงจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้

 

ส่วนลางบอกเหตุ ก่อนเกิดเรื่องโศกนาฎกรรมครั้งนี้ นายบุญจันทร์ เล่าว่า ตนกับนางเก้า ไม่เคยฝันหรือมีสิ่งใดเป็นลางบอกเหตุเลย แต่มีญาติซึ่งอยู่ใกล้บ้านตนมาบอกก่อนเกิดเหตุ 1 วันว่า ฝันเห็นเครื่องบิน 4 ลำ บินวนหลังคาบ้านตน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเป็นการฝันธรรมดา แต่พอรุ่งเช้าก็มีญาติมาบอกว่า นายไทยสานฯ ลูกเขย ก่อเหตุสลดทุบหัวลูกสาว และหลานสาวตาย ก่อนผูกคอตายตาม ซึ่งหลังเกิดเหตุ อยากให้ลูกสาวและหลานมาเข้าฝัน แต่ก็ไม่มาเข้าฝันเลย ได้แต่บอกว่าลูกว่ามาเข้าฝันพ่อแม่หน่อย เพราะคิดถึงมาก เชื่อว่าวิญญาณลูกและหลานยังวนเวียนอยู่ในบ้าน หรือถูกขังไว้ในบ้าน หลังจากเสร็จงานศพ ก็จะไปทำพิธีสูทถอด ให้วิญญาณไปผุดไปเกิด

 

 

 

 

 

 

 

 


ทางด้าน น.ส.ณัฐมน จันทรเสนา อายุ 23 ปี เพื่อน น.ส.คชาภรณ์ หรือจุ๊บแจง บอกว่า เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมต้นถึงมัธยมปลาย จุ๊บแจงเป็นเด็กเรียนดี ชอบเรียนพิเศษ ไม่เคยเกเร หลังเรียนหลังจบ ม.ปลาย ต่างแยกย้ายกันไปเรียนมหาวิทยาลัย โดยจุ๊บแจงเรียนคณะเทคโนโลยีชีวภาพ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ส่วนตนไปเรียนที่ลำปาง เราได้โทรศัพท์คุยกันตลอด หลังเรียนจบจุ๊บแจงได้โทรศัพท์มาหา เพื่อสอบถามเรื่องงานอยากมีงานทำ แต่ไม่ได้บ่น ไม่ได้ปรับทุกข์ หรือเล่าปัญหาครอบครัวให้ฟัง พอรู้ข่าวก็รู้สึกเสียใจ ขอให้จุ๊บแจงไปสู่สุขติ

 

ส่วน น.ส.ป๊อบ และ น.ส.บี อายุ 18 ปี เพื่อนสนิท น.ส.ศศิธร หรือน้องจูจี้ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี สาขาการจัดการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า จูเป็นคนร่าเริง น่ารัก สดใส เป็นคนดูแลเพื่อนทุกคน ไม่เคยพูดปัญหาครอบครัวเลย พอทราบข่าว รู้สึกช๊อค ไม่เคยคิดว่าจะเป็นจู เพราะบอกว่าวันที่ 5 มกราคม เจอกันที่มหาวิทยาลัยนะ ถ้าจูฟังอยู่อยากจะบอกว่า “รักนะจูจี้ อยากให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี

 

ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่เป็นเวลาเริ่มเข้าสู่พิธีฌาปนกิจผู้เสียชีวิตทั้ง 4คน บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยเป็นการจัดพิธีแบบเรียบง่าย มี นายวสันต์ นุ้ยภิรมย์ อธิบดีกรมหม่อนไหม เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพทั้ง 4 พร้อมด้วย นายวัชรพงษ์ แก้วหอม ผอ.ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติอุดรธานี นายณฐพล วิถี นายอำเภอเพ็ญ พ.ต.อ.ศักดา เหมือนโพธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.ชลิต ศรีหานู หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ เพื่อนร่วมงาน ญาติผู้เสียชีวิต ชาวบ้าน และ อาจารย์พร้อมเพื่อนลูกสาว จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมีผู้มาร่วมงานกว่า 500 คน

 

โดยการฌาปนกิจศพของนายไทยสานฯ เผาที่เมรุ ส่วนศพของ นางวัชราภรณ์ ภรรยา , น.ส.คชาภรณ์ และ น.ส.ศศิธร ลูกสาว เผาศพในกองไม้ หรือ กองฟอน ที่ตั้งเรียงกัน 3 ศพ ซึ่งเมื่อทำพิธีฌาปนกิจศพทั้ง 4 เป็นภาพที่สลดหดหู่แก่ผู้มาร่วมพิธี ในขณะที่มีหน่วยงานต่าง ๆ มอบเงินช่วยเหลือกับครอบครัว โดยเฉพาะทางมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้มอบสินไหมทดแทนประกันชีวิตนักศึกษา จำนวน 130,000 บาท ของ น.ส.ศศิธร ลูกสาวคนเล็ก ที่เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ให้กับพ่อแม่ของนางวัชราภรณ์ฯ

 

ทางด้านนายณฐพล วิถี นายอำเภอเพ็ญ เปิดเผยว่า จดหมายที่นายไชยสานฯ เขียนลาตาย เรื่องของตึกสีชมพูที่หน้าห้างฯ แห่งหนึ่งใน อ.เพ็ญ ตนได้ทำก่ารตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นร้านที่เปิดเป็นไฟแน้นซ์ ซึ่งวันนี้ทางตัวแทนของไฟแน้นซ์แห่งนี้ก็มาร่วมงานศพด้วย ซึ่งนายไชยสานฯ ได้นำที่ดินที่เป็นที่ น.ส.3 ประมาณ 3 ไร่ ไปวางกู้เงิน 5,000 บาท เมื่อไม่นานมานี้ ที่เป็นช่วงที่เขาขัดข้องเรื่องเงิน ซึ่งทางเจ้าของไฟแน้นซ์เขาบอกว่า ยินดีที่จะให้ไถ่ถอน ก็คงต้องหลังเสร็จงานศพเสียก่อน เพราะว่าทางครอบครัวก็ได้เงินช่วยเหลือจากหลาย ๆ ส่วน

 

โดยจะต้องดูจากหลายส่วน เช่นทาง ผอ.ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติอุดรธานี ก็จะมาดูเรื่องเงินที่มีการกู้จากทางสหกรณ์ฯ โดยต้องให้ทางพ่อแม่ของนางวัชราภรณ์ฯ ภรรยา มาดูแล และฝากให้ทางผู้ปฏิบัติหน้าที่นายก อบต.เชียงหวาง มาดูแลด้วย เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นญาติกับทางภรรยาของผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ นอกจากนี้จะดูในเรื่องเงินตอบแทนผู้เสียหาย ของกระทรวงยุติธรรม ด้วยว่าจะสามารถทำเรื่องขอเงินในส่วนนี้ได้หรือไม่ นายอำเภอเพ็ญกล่าว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ชมคลิป

 

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.