อช.เกาะพีพีดำเนินคดี "เรือสปีดโบ๊ท" ติดแห้งแนวปะการัง หลังแชร์กระหึ่มในโซเชียล (มีคลิป)
27 ธ.ค. 2562, 14:11
ชมคลิป
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จับกุมดำเนินคดี เรือสปีดโบทติดแห้งในแนวปะการังแล้ว หลังมีแชร์ในโซเชี่ยล ฯ หน.อุทยานระบุ จุดเกิดเหตุเป็นอ่าวลิงสามหาด ไม่ใช่อ่าวมาหยา พร้อมเปรียบเทียบปรับ 5พันบาท ข้อหากระทำผิด พ.ร.บ.อุทยานฯ พร้อมนำชี้จุดเกิดเหตุ จากกรณีที่โลกโซเชี่ยลได้มีการแชร์คลิปวีดีโอ ขณะเรือสปีดโบ๊ตลำหนึ่ง ติดกลางดงปะการัง ช่วงน้ำลด โดยระบุว่าอยู่บริเวณอ่าวมา เขตอุทยานแห่งชาติหาดรพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ โดยกับตันเรือพยายามเร่งเครื่องจนน้ำฟุ้งกระจาย บริเวณใกล้แนวปะการัง โดยเฟสบุ๊ก “จิตอาสา Go Eco Phuket”เป็นโพสต์คลิปดังกล่าว พร้อมข้อความระบุว่า “ ปะการังชิปหายหมด ไหนว่าปิดอ่าว!? จะอนุรักษ์อย่างไรหากคนที่ทำงาน หรือผู้มีส่วนร่วมยังขาดจิตสำนึก รู้ทั้งรู้ว่าน้ำแห้งจนปะการังโผล่ เรือก็สามเครื่องยัง พาเรือเข้าไปติดแห้ง!? ทั้งเด็กเรือ กัปตันลงไปเข็น ที่เจ็บใจคือแจ้ง จนท อช. ที่ลอยลำอยู่หน้าถ้ำไวกิ้งก็ไม่เห็นจะแอ็คชั่นอะไร ขนาดบอกว่าไปถ่ายรูปแล้วปรับกัปตันเลย ก็เฉย!!" พร้อมทั้งระบุว่า เหตุเกิดที่อ่าวมาหยา หมู่เกาะพีพีเมื่อ วันที่ 21 ธ.ค ที่ผ่านมา พร้อมเรียกร้องให้หามาตรการป้องกัน
ความคืบหน้า วันที่ 27 .ค.62 นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ที่อยู่บริเวณใกล้ที่สุด ตามที่ปรากฏในโลกโซเชี่ยล ปรากฏว่าพื้นที่บริเวณนั้นไม่ใช่เป็นอ่าวมาหยา แต่เป็นอ่าวลิงสามหาด ซึ่งอยู่บริเวณเกาะพีพีดอน ส่วนอ่าวมาหยานั้นอยู่ที่เกาะพีพีเล ภายหลังทราบเรื่องก็ได้สั่งการจนท.อออกสืบหาเรือลำดังกล่าว จนกระทั่งพบว่าเป็นเรือ ของ บริษัทพีพีสบายมารีนจำกัด เดินทางมาจากจังหวัดภูเก็ต โดยมี นายสุเชษฐ์ หนูแก้ว อายุ 45 ปี ชาวจังหวัดตรัง เป็นกัปตันเรือ เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา กระทำผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชฉบับใหม่ ปี พ.ศ. 2562 กระทำการในเขตอุทยานโดยผิดกฎหมาย ผู้ต้องหารับสารภาพ พร้อมได้ทำบันทึกประวัติ และเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 5,000บาท
ซึ่งก่อนที่จะดำเนินคดี ได้นำกับตันเรือลำดังกล่าว พร้อมเรือ ไปตรวจสอบพื้นที่จริงเพื่อให้เกิดความชัดเจน โดยจุดเกิดเหตุอยู่ที่อ่าวสามหาดเกาะพีพีดอน จากการตรวจสอบไม่เป็นเป็นแนวหินที่อยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 200 เมตร ถัดออกมาจากแนวหินอีก 300 เมตรก็จะเป็นแนวปะการังปละปลายน้ำลึกอยู่ที่ 10 - 20 เมตร อย่างไรก็ตามขอขอบคุณผู้ประกอบการ ที่ให้ความร่วมมือช่วยกันสอดส่องดูแล และแจ้งเบาะแก่เจ้าหน้าที่ เพราะลำพังเจ้าหน้าที่อุทยานฯ อาจะดูแลไม่ทั่วถึง เนื่องจาก แต่ละวันมีเรือ เข้ามาในเขตอุทยานจำนวนมาก ประกอบกับเขตอุทยานฯหมู่เกาะพีพี มีพื้นที่กว้าง กำลังเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ก็ จะคอยเฝ้าระวัง