เจ้าของรถลากออกมายันที่ "ทวี ไกรคุปต์" กล่าวหาเป็นเรื่องไม่จริง
26 ธ.ค. 2562, 17:27
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า จากกรณีที่นายทวี ไกรคุปต์ อดีต รมช.คมนาคม ขับรถเบนซ์ชน นายปกิต ปรางค์จันทร์ อายุ 17 ปี เป็นผู้ขับขี่รถ จยย.ได้รับบาดเจ็บ แต่นายทวีไม่ได้จอดรถทันที จนมีพลเมืองดีที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุถ่ายคลิปวีดีโอไว้ได้ แล้วนำไปโพสต์ในโลกโซซียลจนเกิดกระแสวิจารณ์กันกว้างขวาง โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 21 ธ.ค.62 ที่ผ่านมา ต่อมานายทวี ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการทีวีต่างๆว่า เป็นการตัดต่อคลิป แถมเครื่องมือเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังสกปรก และนายทวี ยังอ้างว่า การทำงานของกู้ภัยแขวงด้วยผลประโยชน์มีการรู้เห็นเรื่องผลประโยชน์กับขบวนการรถลากรถสไลด์ จนมีการต่อเถียงกันอย่างรุนแรงระหว่าง นายทวี และ กู้ภัย จนบานปลายสร้างความไม่พอใจให้กับหน่วยกู้ภัยกว่า 60 หน่วย ซึ่งได้ประชุมหารือเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วนและเตรียมตัวดำเนินการตามกฎหมายกับนายทวี
ล่าสุดเจ้าของเฟสบุ๊กชื่อ "อู่.น.การช่าง ราชบูรี" ซึ่งได้โฟสต์ข้อความว่า "ครั้งนั้นที่ท่านพุดถึงคือผมนี่ละที่ยกรถท่านกับคุ่กรณี ให้ท่านเองนะครับ จากด่านชั่ง จ ราชบุรี ส่งมาที่ ต เบิกไพร อ จอมบึง ประมาณ 40 กม รถ สใล้ คิดท่านไปแค่ 2000 นะครับ บอกแพงอีก ให้ข่าวแบบนี้สังคมเขาใจผิดผมนะคับ กลุ่มงานรถยก รถสใล์เขามีความเป็นมืออาชีพ มีจิตสำนึก ไม่คิดซ้ำเติมไคร เหตุครั้งนั้นผมได้รับการติดต่อขอใช้บริการจากทางอุ่ ไม่ได้รับงานจากกุ้ชีพ หรือมุลนิธิ ใดๆทั้งนั้นครับ" พร้อมได้ลงภาพในที่เกิดเหตุ ซึ่งระบุบว่าเป็นรถเลกซัส ของนายทวี ที่เกิดอุบัติเหตุ และใช้บริการรถสไลด์ของตน และวีดีโอคลิปในรายการโทรทัศน์ที่นายทวี กล่าวอ้างพาดพิงถึงว่า การทำงานของกู้ภัยแขวงด้วยผลประโยชน์มีการรู้เห็นเรื่องผลประโยชน์กับขบวนการรถลากรถสไลด์ โดยได้ลงวันเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม เวลา 14:05 น
วันนี้ (26 ธ.ค.62) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง อู่ น.การช่าง ที่ตั้งอยู่เลขที่ 30/1 ม.3 ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี เพื่อพบกับนายเดชธน พรกลิ่นขจร ซึ่งเป็นเจ้าของเฟสบุ๊กที่โฟสต์ข้อความดังกล่าว และเป็นหัวหน้าชมรมกลุ่มรถลาก รถสไลด์ ราชบุรี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสมาชิกสมาคมรถยกทั่วไทย ได้เปิดเผยข้อมูลกับทางผู้สื่อข่าวว่า เรื่องที่นายทวี ได้พูดพาดพิงตนกับกู้ภัยว่า กู้ภัยมีการรู้เห็นเรื่องผลประโยชน์กับขบวนการรถลากรถสไลด์ ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ที่เกิดเหตุวันนั้นตนได้รับการไหว้วานจากอู่ช่างเริง ซึ่งอยู่ห่างจากวัดเบิกไพร อ.จอมบึง ให้ตนมาลากรถที่ประสบอุบัติเหตุบริเวณหน้าสถานีตรวจสอบน้ำหนัก อ.โพธาราม คือรถเลกซัส เอาไปที่อู่เพื่อซ่อม ซึ่งตอนนั้นตนอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุจึงรีบไปยังที่เกิดเหตุ โดยไม่รู้เลยว่าเป็นรถของใคร และไม่ได้มีการคุยกับเจ้าของรถเรื่องราคาเลย เพราะเนื่องจากทางอู่ช่างเริง ติดต่องานเข้ามากับตนก็ถือว่า อู่ช่างเริง เป็นผู้ว่าจ้างตน ไม่เกี่ยวกับเจ้าของรถ ซึ่งตนได้คุยกับนายทวี ในที่เกิดเหตุแค่เพียงว่า จะลากเอาไปซ่อมที่อู่ไหนเท่านั้น ไม่ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องราคาเลย ซึ่งมาตรฐานสำหรับรถลาก รถสไลด์ ก็มีราคามาตรฐานตายตัวอยู่แล้ว ระยะทาง 5 กิโล จะคิดเหมาไปเลยว่าอยู่ที่ราคา 1,000 - 1,500 บาท แล้วแต่ความยากง่ายของงาน และจะบวกเพิ่มกิโลละ 25 บาท ซึ่งการบริการจะไม่มีการมาคิดตามความอำเภอใจว่ารถคันนี้จะบวกเท่านั้นเท่านี้ตามที่นายทวี กล่าวหา ซึ่งไม่เป็นความจริง และตนก็ยืนยันได้ว่า ตนไม่เคยได้งานจากกู้ภัยเลย และไม่มีการส่งงานให้กับพวกตน จะมีการทำงานคู่กันก็ต่อเมื่อช่วยเหลือสังคมเท่านั้น ซึ่งวันนั้นในเคสของนายทวี ซึ่งตนมารู้ที่หลังว่าเป็นรถของนายทวี ตนได้คิดค่าบริการไป 2,000 บาทเท่านั้น แต่ระยะทางที่วิ่งมาจากจุดที่เกิดเหตุจนถึงอู่ช่างเริง รวมกว่า 50 กิโล และก็ไม่ได้รับแจ้งจากกู้ภัย เป็นการแจ้งมาจากทางอู่ช่างเริงโดยตรง ไม่เกี่ยวกับกู้ภัยเลย และไม่มีเรื่องผลประโยชน์กันตามที่นายทวี กล่าวอ้างพาดพิงถึงเลย
นายเดชธน ยังกล่าวต่ออีกว่า ที่ตนออกมาโพสต์และแสดงความคิดเห็นแบบนี้ เพราะตนต้องการให้ทุกคนเข้าใจเรื่องที่ถูกต้อง เพราะนายทวี ได้พูดถึงเรื่องตนกับกู้ภัยมีผลประโยชน์รวมกัน ซึ่งทำให้ตนรู้สึกเสียใจ เพราะตลอดที่ผ่านมาตนก็ทำงานช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด และวันที่เกิดเหตุนั้น ตนก็ไม่ได้รู้จักกับนายทวีเลย ซึ่งตนมารู้ทีหลังว่าเป็นนายทวี หลังจากลากรถไปให้ที่อู่แล้ว และทางอู่ก็เป็นคนจ่ายเงินให้กับตน ไม่ใช่นายทวีจ่ายเงินให้กับตนเลย แล้วจะบอกว่ามาว่าตนคิดแพงเกินไป และระยะทางก็ไกลซึ่งปกติแล้วเขาไม่คิดกันราคาเท่านั้นหรอก ซึ่งตนก็อยากฝากถึงนายทวี ว่า "พูดอะไรก็อย่าพาดพิงถึงพวกตน ซึ่งตนเป็นเด็กเล็กๆที่ทำมาหากินด้วยอุดมการณ์ที่มีจิตอาสาจริงๆ ซึ่งทำมาตั้ง 15 ปีแล้ว ตนไม่ได้ทำด้วยต้องการเงินเป็นหลัก แต่ทำด้วยจิตอาสา การที่ออกมาให้สัมภาษณ์พาดพิงแบบนี้ ทำให้คนที่เขาทำงานเพื่อสังคม และจิตอาสาจริงๆ เขาหมดกำลังใจ"