เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 20 ธ.ค.62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เรือจำอำเภอตะกั่วป่า อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ว่าที่ร้อยเอก พงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอำเภอตะกั่วป่า เป็นประธานการปฏิบัติการตรวจค้นจู่โจมภายในเรือนจำอำเภอตะกั่วป่า ตามมาตรการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าและการเก็บซุกซ่อนซึ่ง อาวุธ วัตถุระเบิด โทรศัพท์มือถือ ยาเสพติด รวมทั้งสิ่งของต้องห้ามอื่นๆไว้ในเรือนจำ หรือใช้เรือนจำเป็นฐานในการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยมีนายสมศักดิ์ ชูแสง ปลัดอำเภออาวุโส อ.ตะกั่วป่า นายภานุวัฒน์ สองเมือง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.ตะกั่วป่า นายอนุสรณ์ มณีแดง ผบ.เรือนจำอำเภอตะกั่วป่า นายชัยทัต เทพเสถียร รองนายกเทศบาลตำบลบางนายสี และเจ้าหน้าที่สมาชิก อส.สังกัด กองร้อย อส.อ.ตะกั่วป่า ที่ 7 เจ้าหน้าตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่กองร้อย ตชด.425 ตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตลาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 8 และเจ้าหน้าที่เรือนจำอำเภอตะกั่วป่า จำนวน 60 นาย ได้ร่วมการตรวจค้นจู่โจมเรือนจำในครั้งนี้ตามที่รัฐบาล และนโยบายของกรมราชทัณฑ์ ได้กำหนดให้การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติกำหนดให้หน่วยงานภาครัฐบูรณาการปฏิบัติงานเพื่อกวาดล้าง ยับยั้งตัดวงจรการกระทำผิดให้บังเกิดผลตามเป้าหมายภายในห้วงเวลาที่กำหนดตามนโยบายสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีแผนแม่บทประเด็นด้านความมั่นคง แนวทางพัฒนาคือการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ. ศ. 2563 - 2565 และแผนยุทธศาสตร์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดพังงาในการ ดำเนินงานป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ซึ่งในปัจจุบัน เรือนจำอำเภอตะกั่วป่า มีผู้ต้องขังอยู่ในการควบคุมจำนวน 1,020 คน เป็นชาย 984 คน เป็นหญิง 72 คน ผู้ต้องขังคดียาเสพติดจำนวน 837 คน คิดเป็นร้อยละ 82 ของผู้ต้องขังทั้งหมด

 

 

 

 

 

 

 

ทาง นายอนุสรณ์ มณีแดง ผบ.เรือนจำอำเภอตะกั่วป่า กล่าวว่า ซึ่งการดำเนินการตามนโยบายอย่างเคร่งครัดโดยการบูรณาการหน่วยงานพันธมิตรในพื้นที่ อำเภอตะกั่วป่า เข้าจู่โจมตรวจค้นเรือนจำอย่างต่อเนื่องเพื่อขจัดสิ่งของต้องห้าม การลักลอบใช้โทรศัพท์เครื่องมือสื่อสาร สั่งการเป็นเครือข่ายในการกระทำผิด ภายในเรือนจำ ซึ่งในครั้งนี้เรือนจำอำเภอตะกั่วป่า ได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าจู่โจมตรวจค้น ภายในเรือนจำ ในเรือนนอนและมุมต่างๆ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ ได้มีการสุ่มตรวจปัสสาวะเพื่อค้นหาสารเสพติดในผู้ต้องขังกลุ่มเสี่ยงจำนวน 100 คน แต่ไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด ซึ่งผลการตรวจค้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่พบสิ่งของต้องห้ามหรือยาเสพติด หรือสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ภายในเรือนจำแต่อย่างใด ต่อจากนี้ทุกเดือนจะสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการบุกตรวจค้นแบบจู่โจมเช่นนี้เป็นระยะโดยไม่แจ้งล่วงหน้า เพื่อเป็นการป้องปรามการกระทำผิดกฎหมายในเรือนจำซึ่งเป็นการดำเนินงานตามนโยบายของกรมราชทัณฑ์ และเป็นการจู่โจมตรวจค้นในกรณีพิเศษ