เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"ญาติเหยื่อรายที่ 5" ลั่น! อยากให้ประหาร "สมคิด พุ่มพวง" ฆาตกรใจเหี้ยม หลังฆ่าชิงทรัพย์หมอนวดแผนโบราณดับเมื่อ 14 ปีก่อน


20 ธ.ค. 2562, 09:37



"ญาติเหยื่อรายที่ 5" ลั่น! อยากให้ประหาร "สมคิด พุ่มพวง" ฆาตกรใจเหี้ยม หลังฆ่าชิงทรัพย์หมอนวดแผนโบราณดับเมื่อ 14 ปีก่อน




เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 20 ธ.ค.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านนาเจริญกลาง หมู่ที่ 13 ต.หนองเลิง อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ เพื่อไปพบกับ นางทองปุ่น ศรีสุภา ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านบ้านนาเจริญกลาง  ซึ่งเป็นพี่สาวคนโตของ น.ส.สมปอง พิมพรภิรมย์ หมอนวดแผนโบราณเหยื่อรายที่ 5 ที่ถูกนายสมคิด พุ่มพวง ลวงไปฆ่าชิงทรัพย์ในแมนชั่นแห่งหนึ่ง ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เหตุเกิดเมื่อ 21 มิ.ย.48 หรือ14 ปีที่ผ่านมา เพื่อสอบถามความคิดเห็นและความรู้สึกของญาติๆ หลังจากทราบข่าวว่าฆาตกรนายสมคิด ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำหนองคายมาก่อเหตุฆ่าสาวอีกเป็นรายที่ 6 ในอำเภอกระนวน จ.ขอนแก่น

 



โดยนางทองปุ่น เล่าว่ายังคิดว่านายสมคิดฆาตกรใจโหดเหี้ยมรายนี้ยังนอนอยู่ในคุก เพราะคดีฆ่าน้องสาวมีโทษหนักถึงประหารชีวิต แต่รับสารภาพศาลจึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต แต่พอทราบข่าวจากสื่อว่าออกจากคุกมาก็ก่อเหตุซ้ำฆ่าคนตายอีกคนก็ตกใจ แต่พอวันนี้ทราบข่าวว่าจับกุมตัวได้แล้วก็ดีใจโล่งอก ส่วนตัวที่สูญเสียน้องสาวไปอย่างไม่มีวันกลับคืนมาดูแลลูกสาวที่ตนเลี้ยงไว้รอ 1 คนจนตอนนี้ก็โตอายุ 20 ปีแล้ว ถึงแม้จะเป็นเวลาที่ผ่านมาเนิ่นนาน พอฉุกคิดขึ้นมาได้ก็ยังคับแค้นใจเสียใจ เห็นภาพในข่าวทีวีก็อยากจะฆ่าทิ้งให้ตายตามน้องสาวที่ถูกฆาตกรคนนี้ทำร้าย อยากจะให้ศาลท่านตัดสินประหารชีวิตจริงๆ โดยไม่ต้องลดโทษและให้อภัยโทษอีก เพราะถ้าถูกปล่อยออกจากคุกมาอีก ก็ไม่รู้ญาติพี่น้องใคร หรือลูกหลานใครจะถูกมันทำร้ายหรือฆ่าให้ตายอีกเป็นรายที่ 7 หรือ 8-9 ต่อไป

 


จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์หรือ พมจ.จังหวัดบึงกาฬ รายหนึ่งได้เล่าว่าเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2562 นายสมคิด พุ่มพวง ได้เดินทางมาขอความช่วยเหลือเพื่อขอเงินเป็นค่าโดยสารรถประจำทางกลับภูมิลำเนาเดิม คือจังหวัดตรัง หลังจากได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและตรวจสอบเอกสารก่อนการช่วยเหลือ นายสมคิด พึ่งถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำ และไม่มีญาติมารับกลับจึงได้ไปอาศัยอยู่กับเพื่อนคนหนึ่งที่ออกจากเรือนจำด้วยกัน ที่มีภูมิลำเนาอยู่อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ ได้ประมาณ 3 วัน แล้วเพื่อนถูกจับอีกครั้งเพราะเสพสารเสพติดตำรวจตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง ส่วนของนายสมคิดไม่พบตำรวจจึงนำตัวส่งขึ้นรถตู้ จากบุ่งคล้า มาที่ศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ เพื่อขอความความช่วยเหลือส่งกลับถูมิลำเนา เจ้าหน้าที่ พมจ.บึงกาฬ จึงตรวจสอบโดยการคีย์ข้อมูลผู้ขอรับการช่วยเหลือ ปรากฏว่าไม่มีชื่อของนายสมคิด จึงได้สอบข้อเท็จจริงแล้วนำพานายสมคิดไปส่งขึ้นรถโดยสารประจำทาง(แอร์อุดร) เดินทางไปยังหมอชิต เพื่อต่อรถกลับจังหวัดตรัง โดยการช่วยเหลือครั้งนั้นเป็นเงินจำนวน 1,800 บาท.

                นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี//บึงกาฬ






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.