วันนี้ ( 17 ธ.ค. 62 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ห้องประชุมวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครราชสีมา นายเกษมสันต์ เครือเจริญ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดโครงการ สร้างและพัฒนาเครือข่ายแรงงานนอกระบบ ซึ่งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานซึ่งมีภารกิจในการคุ้มครองดูแลแรงงานทั้งในระบบและนอกระบบให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายและมีคุณภาพชีวิตที่ดีจากภารกิจดังกล่าวกรมฯ จำเป็นต้องหาแนวทางในการคุ้มครองแรงงานเพื่อให้ลูกจ้างได้รับความคุ้มครองดูแลอย่างทั่วถึงโดยเฉพาะแรงงานนอกระบบ ผู้รับงานไปทำที่บ้าน ลูกจ้างทำงานบ้าน และผู้ทำงานในงานเกษตรกรรมที่อยู่ในท้องถิ่นที่ห่างไกลโดยการเชิญชวนแรงงานและหน่วยงานต่างๆ ที่มีภารกิจเกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบกิจการร่วมเป็นเครือข่ายการคุ้มครองแรงงาน เพื่อร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรมรวมทั้งสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของกรม

 

สำหรับการจัดกิจกรรมโครงการสร้างและพัฒนาเครือข่ายแรงงานนอกระบบได้รับความอนุเคราะห์สถานที่ในการจัดงานจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครราชสีมา และบริษัท อินกรีดิออน สวีทเทนเนอร์ แอนด์ สตาร์ช (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประสานจัดหาเกษตรกรเข้าร่วมอบรม จำนวน 55 คน ในการอบรมครั้งนี้ ได้รับเกียรติเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษเรื่อง บทบาทภารกิจด้านสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สำนักงานประกันสังคม ให้ความรู้พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 โรคจากการทำงานของกลุ่มแรงงานนอกระบบ โดยโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา กฎกระทรวงว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานในงานเกษตรกรรม พ.ศ. 2557 ความปลอดภัยในการทำงานเกษตรกรรม โดยสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครราชสีมา และการทำกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ โดยผู้แทนบริษัท เดอะมอลล์นครราชสีมา จำกัด

นายเกษมสันต์ เครือเจริญ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครราชสีมา ระบุว่า จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2560 พบว่า ในจำนวนผู้ที่มีงานทำทั้งสิ้น 37.7 ล้านคน เป็นผู้ทำงานที่ไม่ได้รับความคุ้มครองและไม่มีหลักประกันทางสังคมจากการทำงาน หรือเรียกว่า “แรงงานนอกระบบ” จำนวน 20.8 ล้านคน หรือร้อยละ 55.2 และที่เหลือเป็นแรงงานในระบบ 16.9 ล้านคน หรือ ร้อยละ 44.8 กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานซึ่งมีภารกิจในการคุ้มครองดูแลแรงงานทั้งในระบบและนอกระบบให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายและมีคุณภาพชีวิตที่ดีจากภารกิจดังกล่าว

กรมฯ จำเป็นต้องหาแนวทางในการคุ้มครองแรงงานเพื่อให้ลูกจ้างได้รับความคุ้มครองดูแลอย่างทั่วถึงโดยเฉพาะแรงงานนอกระบบผู้รับงานไปทำที่บ้านลูกจ้างทำงานบ้าน และผู้ทำงานในงานเกษตรกรรมที่อยู่ในท้องถิ่นที่ห่างไกลโดยการเชิญชวนแรงงานและหน่วยงานต่างๆ ที่มีภารกิจเกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวมทั้งนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบกิจการร่วมเป็นเครือข่ายการคุ้มครองแรงงานเพื่อร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรมรวมทั้งสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของกรม