จากกรณีหนุ่มชลบุรี ถูกสาวในแอปพลิเคชันหาคู่หลอกให้ออกรถป้ายแดงก่อนจะเชิดหนี ซึ่งภายหลังทราบชื่อสาวผู้ก่อเหตุคือ น.ส.บุษราคัม จ.สุรินทร์ มีประวัติหลอกผู้หชายให้ออกรถให้ในอ.พานทอง จ.ชลบุรี มากถึง 7 คัน และอ.เมืองชลบุรีอีก 5 คัน 

ต่อมา คุณหนุ่ม (นามสมมติ) ผู้เสียหายได้เปิดใจว่า รู้จักน.ส.บุษราคัม ผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ ใช้เวลาคุยประมาณ 1 สัปดาห์ ต่อมาฝ่ายหญิงอ้างต้องการใช้รถกระบะ แต่ดาวน์รถไม่ได้เพราะติดแบล็กลิสต์ อยากให้ฝ่ายชายออกรถให้ก่อน และจะผ่อน-วางเงินดาวน์เอง ซึ่งถ้าออกรถให้ จะได้ไปเช่าหออยู่ด้วยกัน 

(ลำดับเหตุการณ์ ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี)

 

ด้วยความเชื่อใจเพราะผู้หญิงเล่าเรื่องครอบครัว เรื่องส่วนตัวให้ฟัง จึงยอมใช้ชื่อตัวเองผ่อนรถ หลังจากนั้นได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันเรื่องผ่อนชำระค่างวด ซึ่งฝ่ายหญิงได้ผ่อนค่ารถเองเดือนละ 10,000 บาท เป็นจำนวน 72 งวด หลังจากนั้นก็เริ่มติดต่อยาก บ่ายเบี่ยงจ่ายเงิน จนคุณหนุ่มถูกไฟแนนซ์โทรวงเงิน จึงโทรขู่ น.ส.บุษราคัม ว่าถ้าไม่จ่ายหรือไม่ยอมคืนรถจะไปฟ้องศาล กระทั่งวันที่ 20 ธ.ค. น.ส.บุษราคัม ได้นัดคืนรถที่ สภ.เสม็ด แต่ก็ไม่มาตามนัด รู้สึกโกรธมาก และอยากให้นำรถมาคืนเพราะเป็นชื่อของตน

(แชทขณะทวงรถกับ น.ส.บุษราคัม ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี)

 

ต่อมา น.ส.สุวิถา เพื่อนสมัยมัธยมของ น.ส.บุษราคัม ได้เปิดเผยว่า เพื่อนคนนี้เคยยืมเงิน 89,000 บาท และอ้างว่าจะคืนให้วันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าโอนคืนมาเมื่อวานแค่ 2,100 บาท ส่วนเรื่องผู้ชายให้รถกระบะเพื่อน ตนไม่มีส่วนรู้เห็น

น.ส.สุวิถา ยังโทรหา น.ส.บุษราคัม เปิดสปีกเกอร์โฟนพยายามไกล่เกลี่ยให้คืนรถผู้ชาย และบอกให้นึกถึงตากับยายที่แก่แล้ว พอพยายามจี้จุดถามเรื่องรถและเงินถึงกับโดนตัดสายทิ้ง และไม่รับสายอีก