หนาวสุดในประเทศ นครพนมเย็นยะเยือก ครองแชมป์ เผยสถิติต่ำสุด 1.7 องศา (คลิป)
8 ธ.ค. 2562, 10:15
วันที่ 8 ธันวาคม 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า สถานีอุตุนิยมวิทยานครพนม แจ้งสภาวะอากาศว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทย ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง โดยประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนตอนกลางวันท้องฟ้าโปร่งและมีแดดจัด บริเวณพื้นราบในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-14 องศาเซลเซียสฯลฯ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็น รวมถึงระวังอันตรายจากอัคคีภัยไว้ด้วย
สำหรับจังหวัดนครพนม มีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิหลังเที่ยงคืนที่ผ่านมาโดยวัดที่สถานีตรวจวัดอากาศเกษตร ต.ขามเฒ่า อ.เมืองนครพนม อยู่ที่ต่ำสุด 7.8 องศา แต่เมื่อมีแสงแดดอุณหภูมิดีดขึ้นมาอยู่ที่ 13.5 องศาฯ แม้จะมีอากาศหนาวยะเยือกก็ส่งผลดีแก่การท่องเที่ยว เพราะมีประชาชน นักท่องเที่ยว สวมใส่ชุดกีฬาออกมาสัมผัสกับอากาศหนาวในยามเช้าที่ริมฝั่งโขง ต่างคลายหนาวด้วยการออกกำลังกาย เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน และเต้นแอโรบิค ขณะที่ผู้สูงอายุก็รำกระบองเพื่อสร้างความอบอบอุ่นให้กับร่างกาย
จังหวัดนครพนม เป็นพื้นที่หนึ่งที่มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด จากสถิติในรอบ 64 ปี พบว่าเมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ.2498 นครพนมมีอุณหภูมิต่ำสุด 1.8 องศาเซลเซียล ซึ่งอยู่ในเกณฑ์หนาวจัด และจากบันทึกในรอบ 20 ปี โดยวัดเมื่อวันที่ 25-26 ธันวาคม 2542 นครพนมมีอุณหภูมิต่ำสุดเคยวัดได้อยู่ที่ 1.7 องศาเซลเซียล ทุบสถิติเมื่อปี 2498 อย่างสิ้นเชิง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมา จังหวัดนครพนมขึ้นแท่นครองแชมป์อันดับ 1 เมืองหนาวที่สุดในประเทศไทย เพราะอุณหภูมิต่ำสุด 7.5 องศาฯ และกรมอุตุนิยมวิทยาฯ คาดการณ์ว่าในเวลาอันใกล้นี้อาจมีอากาศหนาวเย็นลงไปต่ำกว่า 6 องศาฯ สาเหตุที่จังหวัดนครพนมเป็นเมืองหนาวที่สุดในภาคพื้นราบ เพราะมีปัจจัยมาจากคลื่นความหนาวจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมผ่านเข้ามาทางแขวงคำม่วน ประเทศลาว แล้วเข้าสู่นครพนมเป็นจังหวัดแรก ก่อนแผ่ต่อเนื่องเข้าสู่ภาคอีสานตอนบน ฉะนั้นทุกปีนครพนมจึงติดอันดับท็อปเทนของประเทศ
นอกจากนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม ยังเตือนประชาชนหลีกเลี่ยง 3 พฤติกรรม ที่เสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพถึงขั้นเสียชีวิตในช่วงฤดูหนาว คือไม่ดื่มสุราแก้หนาว เพราะนอกจากไม่ช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายแล้ว ยังส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถทนต่อสภาพอากาศหนาวเย็นได้ อีกทั้งฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ทำให้ร่างกายร้อนวูบวาบ และสูญเสียความร้อนเร็วขึ้น รวมถึงกดประสาทส่วนกลาง ทำให้ง่วงซึมและหมดสติโดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ต้องไม่นอนในที่โล่งแจ้งโดยไม่มีสิ่งปกคลุมร่างกาย โดยเฉพาะคนเมาสุราที่มักเผลอหลับหรือหมดสติ โดยไม่สวมใส่เสื้อผ้าหรือสวมเสื้อผ้าบาง ๆ จะมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากขึ้น เพราะการปล่อยให้ร่างกายสัมผัสกับอากาศเย็นเป็นเวลานาน จะทำให้เส้นเลือดหดตัว การไหลเวียนของโลหิตช้าลง ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน และหัวใจทำงานหนักในการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย ส่งผลให้เกิดอาการช็อคจนเสียชีวิต
คลิป