"สทบ." เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการกองทุนต้นไม้ ชวนชาวใต้ปลูกไม้เศรษฐกิจ
1 ธ.ค. 2562, 14:33
วันที่ 1 ธ.ค.62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่าที่ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านเขานา หมู่ 3 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิด “โครงการกองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนา เปิดปฏิบัติการกองทุนกล้าไม้ “ โดยมีนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช หัวหน้าส่วนราชการ และแขกผู้มีเกียรติให้การต้อนรับ
ทั้งนี้สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) ร่วมเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการกองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนา เป็นความร่วมมือภาคีเครือข่าย 6 องค์กร ประกอบด้วย กรมป่าไม้ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) เพื่อส่งเสริมสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและประชาชนในหมู่บ้าน/ชุมชนในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ยั่งยืน ภายใต้แนวคิด ต้นไม้ยั่งยืน กองทุนมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง ล่าสุดลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มอบกล้าไม้มีค่าแก่ผู้แทนสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จำนวน 5,000 ต้นกล้า ตามโครงการกองทุนต้นไม้ เปิดปฏิบัติการกองทุนกล้าไม้ภาคใต้ พร้อมเชิญชวนสมาชิกกองทุน ฯ และประชาชนร่วมลงทะเบียนเข้าอบรม
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินการเปิดปฏิบัติการกองทุนกล้าไม้ในภาคใต้ ในวันนี้เป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากการเปิดปฏิบัติการในการขับเคลื่อน “โครงการกองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนา ภายใต้แนวคิด “ ต้นไม้ยั่งยืน กองทุนมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง ” นำร่องที่จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการผนึกความร่วมมือภาคีเครือข่าย 7 องค์กร ประกอบด้วย กรมป่าไม้ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) และสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เพื่อส่งเสริมสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ และประชาชนในหมู่บ้าน/ชุมชน ในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ยั่งยืน วันนี้เป็นการขับเคลื่อนโครงการกองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนา : เปิดปฏิบัติการกองทุนกล้าไม้ในภาคใต้ โดยมอบกล้าไม้มีค่าแก่ผู้แทนสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองนครศรีธรรมราช จำนวน 5,000 ต้น ประกอบด้วย ตะเคียนทอง 1,000 ต้น สะเดาเทียม 1,000 ต้น สักทอง 800 ต้น ยางนา 700 ต้น พะยอม 700 ต้น มะค่า 400 ต้น สะตอ 200 ต้น มะม่วงหิมพานต์ 200 ต้น ต้นประ 200 ต้น ต้นธัมมัง 100 ต้น ไผ่รวก 100 ต้น และขี้เหล็ก 50 ต้น
นายกอบศักดิ์ กล่าวอีกว่า โครงการกองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนา เป็นโครงการที่ให้สมาชิกกองทุน มีส่วนร่วมเพิ่มพื้นป่าประเทศไทยให้มีความอุดมสมบูรณ์ ปัจจุบันกองทุนหมู่บ้าน มีสมาชิกทั่วประเทศกว่า 10 ล้านคน เป็นกำลังหลักในการปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่ป่า รวมทั้งเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ให้สมาชิกกองทุนฯ และประชาชนในพื้นที่
ด้านนายนที ขลิบทอง ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) กล่าวว่า กองทุนเป็นองค์กรภาคประชาชน ที่ก่อตั้งมา 18 ปี มีกองทุนรวมกว่า 70,000 กองทุนทั่วประเทศ ที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการปลูกต้นไม้ผ่านโครงการกองทุนฯ ภายใต้แนวคิด ต้นไม้ยั่งยืน กองทุนมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง เพื่อให้ต้นไม้เต็มแผ่นดิน ถือเป็นการสร้างสินทรัพย์แผ่นดิน คือ ต้นไม้ นอกจาก “ ต้นไม้ ”สามารถเพิ่มมูลค่าสร้างรายได้แล้ว ยังสามารถขยายไปสู่การเป็นสินทรัพย์ และนำมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้อีกด้วย นอกจากนั้นยังเป็นการสร้างงาน รายได้ อาทิ อาชีพในการเพาะกล้าไม้ ทำเรือนเพาะชำ ซึ่งเป็นการส่งเสริมอาชีพและส่งเสริมรายได้ให้กับสมาชิกกองทุนฯ และประชาชนในหมู่บ้านและชุมชน
นายนที กล่าวอีกว่า ทาง สทบ. ผนึกความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ ภาคการศึกษา และสถาบันการเงิน เพื่อดำเนินการกิจกรรม 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่ การอบรมให้ความรู้ตามความเชี่ยวชาญและบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานภาคที่เกี่ยวข้อง การสนับสนุนการดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้องกับการปลูกต้นไม้ของกองทุนหมู่บ้าน ฯ ผ่านโครงการตามแนวทางประชารัฐ การรณรงค์เพื่อสร้างความร่วมมือและการสนับสนุนการดำเนินการจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นรัฐ เอกชน หรือภาคประชาชน ซึ่ง สทบ. ขอประชาสัมพันธ์และเปิดรับข้อมูลความต้องการของสมาชิกกองทุนฯ ทั่วประเทศ สามารถเข้ามาลงทะเบียนได้ที่http://smartiotdevice.ddns.net:1234/Web/register.htm โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1. ผู้ต้องการปลูกต้นไม้ สามารถระบุความต้องการกล้าไม้ เพื่อทางกองทุนฯ จะได้จัดเตรียม และ 2. ผู้ทำกล้าไม้ ที่สร้างเป็นศูนย์เพาะชำกล้าไม้ เพื่อบริการแก่สมาชิกต่อไป โดยในวันที่ 25 กรกฎาคม 2563 ซึ่งเป็นวันขึ้น ปีที่ 20 ของกองทุนหมู่บ้านฯ จะได้เชิญชวนให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ” เจ็ดหมื่นกว่ากองทุนทั่วประเทศ ได้ร่วมกันปลูกต้นไม้ เพื่อสร้างสินทรัพย์ และความอุดมสมบูรณ์ให้กับแผ่นดินร่วมกัน