"บิ๊กตู่" เปิดงาน "Thailand Rubber Expo" เปิดเวทีธุรกิจ – โชว์นวัตกรรมยางพาราไทย
29 พ.ย. 2562, 14:39
นายกรัฐมนตรี ย้ำขับเคลื่อนพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมยางพาราไทยแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางยางพาราในภูมิภาค รักษาระดับผู้ผลิตและผู้ส่งออกยางให้ได้
วันนี้ (29 พ.ย.62) เวลา 09.30 น. ณ อิมแพค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดงาน "Thailand Rubber Expo 2019 " จัดโดยการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเป็นเวทีในการเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการด้านยางพาราทั้งในและต่างประเทศ ควบคู่การประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์จากยางพาราของเกษตรกร สถาบันเกษตรกร ชาวสวนยางไทย และผู้ประกอบการ รวมทั้งแสดงศักยภาพความเป็นผู้นำของไทยในฐานะผู้ผลิตยางคุณภาพ โดยมีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เอกอัครราชทูต ผู้ประกอบธุรกิจการยาง ภาคธุรกิจเอกชนจากในและต่างประเทศ ภาคเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการจัดงาน "Thailand Rubber Expo 2019 " ว่า เป็นโอกาสที่ดีที่ได้มาเห็นการพัฒนาการของอุตสาหกรรมยางพาราของไทยที่ได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ยางพารา ซึ่งประเทศไทยมีการผลิตยางพาราจำนวนมาก โดยนำมาใช้ในประเทศจำนวนหนึ่งและส่งออกไปต่างประเทศด้วย ทั้งนี้การที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ และมีการแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพาราจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นมาได้ ส่งผลดีไปสู่เกษตรชาวสวนยางและเกษตรกรอื่นโดยรวมต่อไป ในอดีตอุตสาหกรรมยางพาราของไทยเติบโตตามทิศทางราคายางและความต้องการใช้ยางทั่วโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด แต่ปัจจุบันอุตสาหกรรมยางของไทยกำลังเผชิญกับความท้าท้ายจากภาวะเศรษฐกิจโลกผันผวน ประเทศที่เป็นตลาดหลักยางพาราที่ไทยต้องพึ่งการส่งออก เช่น สหรัฐอเมริกาและยุโรปมีการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ หรือประเทศคู่มิตรอย่างจีนที่ต้องการเป็นศูนย์กลางสินค้ายางพาราระดับโลกตามแผนพัฒนาของจีน มีการลงทุนปลูกยางในประเทศอื่นเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้จีนสามารถเพิ่มผลผลิตยางพาราเพื่อใช้ภายในประเทศมากขึ้นและอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกยางพาราของไทย โดยเรื่องนี้ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันคิดหาแนวทางที่จะทำให้เกิดประโยชน์ร่วมกันเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ลดความเหลื่อล้ำ และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่ารัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมยางพาราไทยครอบคลุมทั้งระบบตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ไปจนปลายทาง โดยในส่วนของต้นทาง รัฐบาลได้มีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางในการสร้างเสถียรภาพราคายาง ในระยะยาว เช่น การจัดทำแผนการบริหารจัดการยางพาราของประเทศทั้งระบบ การลดพื้นที่เพาะปลูกในพื้นที่ที่ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการนำองค์ความรู้มาใช้ในการเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนของเกษตรกร พร้อมทั้งส่งเสริมให้หน่วยงานของรัฐใช้วัตถุดิบยางพาราจากเกษตรการชาวสวนยางและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ขณะที่กลางทาง หรือผู้ประกอบการยางพารา รัฐบาลมุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราของไทยอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการนำองค์ความรู้จากงานวิจัยมาพัฒนาต่อยอดเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ยางพารา และผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยางแบบครบวงจร พร้อมยกระดับและพัฒนาคุณภาพมาตรฐานสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางยางพาราในภูมิภาค เพื่อรักษาระดับผู้ผลิตและผู้ส่งออกยางให้ได้ พร้อมกันนี้ ได้กำหนดมาตรการทางการเงินเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการยางพาราสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ รัฐบาลยังดำเนินงานเชิงรุกเพื่อแสวงหาและขยายไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพอื่น ๆ เช่น อินเดีย ตุรกี เป็นต้น และจะขยายตลาดไปสู่ประเทศแอฟริกาซึ่งกำลังมีการพัฒนาในเรื่องของโครงการพื้นฐานและมีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์จากยางพาราในการทำถนนด้วย จึงเป็นโอกาสที่ดีของประเทศไทยที่จะขยายตลาดไปสู่ประเทศดังกล่าวด้วย เพื่อสร้างโอกาสให้ผลิตภัณฑ์ยางพาราไทยเติบโตขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ โดยการจัดงานในวันนี้ถือเป็นหนึ่งในเวทีสำคัญในการแสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมยางพาราไทยตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ อีกทั้งเป็นกลไกในการสร้างความร่วมมือ การสร้างเครือข่าย การเจรจาการค้าการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้นในอนาคต พร้อมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและสังคมให้กับยางพาราไทยต่อไป
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมบูธนิทรรศการการจัดงาน "Thailand Rubber Expo 2019 "อาทิ นิทรรศการการยางแห่งประเทศไทย ฝ่ายวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมยาง สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วว.) พร้อมเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากยางพาราที่นำมาจำหน่ายภายในงานด้วย เช่น บรรจุภัณฑ์อาหาร สมุนไพร หมอนเพื่อสุขภาพ โดยนายกรัฐมนตรี ได้ย้ำถึงการผลิตสินค้าว่าต้องคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นสำคัญให้ครอบคลุมทั้งด้านคุณภาพและราคาที่เหมาะสม ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ รวมถึงการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์เดิมเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันในการพัฒนาประเทศให้ก้าวต่อไปข้างหน้า
ทั้งนี้ ผู้สนใจและนักธุรกิจ ผู้ประกอบการ นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนประชาชนทั่วไป สามารถมาร่วมงาน "Thailand Rubber Expo 2019 " ได้ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-1 ธันวาคม 2562 ณ อิมแพค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยภายในงานจะได้พบกับนิทรรศการนวัตกรรมและงานวิจัยยางพารา ได้แก่ โซนจับคู่ธุรกิจ/นัดหมายเจรจาการค้า โซนออกร้านจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ยางพาราและสินค้าอื่น โซนนิทรรศการนวัตกรรมและงานวิจัยยางพารา โซนเสวนาและจัดกิจกรรมพิเศษต่างๆ ในงาน โซนให้บริการของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ตลอดจนนิทรรศการจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานร่วมบูรณาการ อาทิ กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ อีกทั้งยังจะได้จับจ่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ยางพาราและสินค้าอื่นที่เกี่ยวข้อง กว่า 250 ร้านค้า