รุมฆ่าโหด "หนุ่มวัย34" ชาวสุไหงโก-ลก วิ่งตามจ่อยิงดับนอนจมกองเลือด
29 พ.ย. 2562, 09:40
เมื่อเวลา 19.30 น. ของวันที่ 28 พ.ย. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ร.ต.ท.วีรชัย พิเศษกุญชร รองสารวัตรสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตบนถนน หน้าบ้านเลขที่ 240/51 ในชุมชนบ้านบือเร็ง ซอย 17 ถ.เจริญเขต ต.สุไหงโก-ลก จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ศุภกร พึ่งรศ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครอง รวมทั้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยธารน้ำใจสุไหงโก-ลกจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพนายอาแฟนดี ยูโซะ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 ถนนชลธารเขต ซอย 3 ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นอนหงายจมกองเลือดอยู่ โยมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพก ขนาด 9 ม.ม.และ 11 ม.ม. ที่บริเวณศรีษะ หางคิ้วขวา ปลายคางและลำตัว จำนวน 4 นัด และเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนพก ขนาด 9 ม.ม.และ 11 ม.ม. จำนวน 4 ปลอก ตกอยู่ข้างศพผู้เสียชีวิต และห่างจากศพไปประมาณ 20 เมตร พบรถ จยย.ยี่ห้อฮฮนด้า สีขาว ทะเบียน ขธต 399 นราธิวาส จอดอยู่ริมถนนในลักษณะตั้งขาตั้ง โดยมีโทรศัพท์มือ รองเท้าแตะ แว่นตา รวมทั้งซองบรรจุกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม.พร้อมกระสุนตกอยู่ จำนวน 1 ซอง เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะมอบศพผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยธารน้ำใจสุไหงโก-ลก ส่งโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เพื่อทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียด ก่อนที่จะมอบให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้นั่งเรือยนต์ข้ามฟากที่ท่าชมพู่ จากรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซียเข้ามาฝั่งไทย พร้อมทั้งได้เช่ารถ จยย.จากวินมอเตอร์ไซด์ เพื่อทำธุระในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เมื่อผ่านไปได้ประมาณ 1 ช.ม.ผู้เสียชีวิตได้ขี่รถ จยย.เข้าไปในชุมชนจุดเกิดเหตุ เพื่อที่จะนำรถ จยย.ที่เช่าส่งคืนเจ้าของ แต่ในขณะนั้นได้พบกับคนร้ายจำนวน 2 คน ที่ขี่รถ จยย.มาพบโดยบังเอิญ และผู้เสียชีวิตได้จอดรถ จยย.พูดคุยกับคนร้าย ซึ่งชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าวได้ยินเสียงเหมือนลักษณะผู้เสียชีวิตได้โต้เถียงกับคนร้าย จากนั้นคนร้ายจำนวน 2 คน ได้ชักอาวุธปืนพก 9 ม.ม.และ 11 ม.ม.คนละกระบอกจ่อยิงใส่ผู้เสียชีวิต จำนวน 1 นัด แล้วผู้เสียชีวิตได้วิ่งเพื่อขอความช่วยเหลือชาวบ้าน แต่คนร้ายได้วิ่งไล่ตามแล้วใช้อาวุธปืนจ่อยิงใส่ผู้เสียชีวิตอีก 3 นัดซ้อน จนล้มลงเสียชีวิตคาที แล้วคนร้ายได้ขี่รถ จยย.หลบหนีไป
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะมาจากปัญหาความขัดแย้งส่วนตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเชิญตัวญาติของผู้เสียชีวิต รวมทั้งพยานบุคคลในที่เกิดขึ้น มาให้ปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อที่จะได้ติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษต่อไป