นายประพันธ์ ราชแสง อายุ 55 ปี เจ้าของมรดกฟาร์ม อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ที่ 3 บ้านไร่เหนือ ตำบลในเตา อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง นำผู้สื่อข่าว ONB news ไปดูฝูงวัว ซึ่งมีจำนวนมากที่สุดในพื้นที่ รวมกว่า 170 ตัว ทั้งพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ วัววัยหนุ่มสาว และลูกเล็กที่กำลังเติบโต โดยเป็นอาชีพที่ครอบครัวทำมายาวนานไม่ต่ำกว่า 45 ปีแล้ว จากอดีตที่รุ่นพ่อเริ่มเลี้ยงวัวเพียง 4 ตัว กระทั่งมาถึงรุ่นตนเองเป็น 45 ตัว แต่หากวัวตกลูกเป็นเพศเมีย จะเก็บไว้ทำแม่พันธุ์เพื่อเพิ่มปริมาณ และขายแต่เฉพาะวัวเพศผู้ ซึ่งนิยมซื้อไปทำวัวชน จึงมีพ่อพันธุ์เพียง 2 ตัวเท่านั้น ทำให้ค่อยๆ มีวัวจนเกือบ 200 ตัวแล้ว โดยเป็นพันธุ์พื้นเมืองผสมสายเลือดวัวชนทั้งหมด ส่วนลูกวัวหากออกมาเป็นเพศผู้ จะใช้เวลาขุนประมาณ 15 เดือน ก็ขายได้ในราคาตัวละ 25,000 บาท

 

         

สำหรับสาเหตุที่หันมาเลี้ยงวัว เพราะเป็นอาชีพที่รัก และแต่ละปีสามารถสร้างรายได้ให้ดีมาก เพียงแค่ต้องจ้างคนเลี้ยงเดือนละประมาณ 10,000 บาทเท่านั้น แต่ได้ลูกวัวถึงปีละประมาณ 20-30 ตัว จนกลายเป็นอาชีพเสริมที่น่าสนใจ นอกเหนือจากการทำสวนปาล์มน้ำมัน และยางพารา ที่ย่ำแย่ลงเพราะราคาตกต่ำ  โดยวัวที่ขายได้ถือเป็นรายได้มาจุนเจือครอบครัว และเหลือเป็นเงินเก็บ อีกทั้งยังได้มูลวัวไว้ใส่ยางพาราและปาล์มน้ำมันด้วย จึงสามารถลดต้นทุนค่าปุ๋ยได้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเพียง 6 คืน จะได้มูลวัวประมาณ 80 กระสอบ ถึงแม้จะมีคนมาขอแบ่งซื้อ แต่ไม่ขาย เพราะต้องการเอาไว้ใส่ในสวนของตนเอง

ทั้งนี้ ลูกวัวเพศผู้ จะมีคนมาติดต่อขอซื้อล่วงหน้าทั้งหมด เพื่อเอาไปขุนทำวัวชน ชนิดที่มีกี่ตัวก็ไม่พอต่อความต้องการ จึงอยากจะแนะนำให้เกษตรกรชาวตรังหันมาเลี้ยงวัวเป็นรายได้เสริม เพราะสามารถเลี้ยงได้ง่าย โดยการให้กินหญ้าตามธรรมชาติ จึงไม่ต้องลงทุนมาก แค่ใช้เวลาเท่านั้น เหมือนอย่างเช่น ที่มรดกฟาร์ม จะปล่อยให้วัวกินหญ้าในสวนปาล์มน้ำมันและยางพาราของตนเอง นอกจากนั้น ยังได้ทำแปลงหญ้าไว้สำหรับเลี้ยงวัวเป็นการเฉพาะด้วยในเนื้อที่ 10 ไร่  ส่วนใหญ่จึงปล่อยให้กินหญ้าเอง หรือนานๆ จะนำมาบดผสมกับอาหารให้บ้าง เพื่อเพิ่มความเจริญเติบโตและความแข็งแรง