วันที่ 26 พ.ย.62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ผู้ใช้เฟสบุ๊ค ชื่อ ploychompoo มีการโพสต์เตือนภัย เรื่องราวโจรงัดร้าน พร้อมระบุข้อความว่า "เตือนภัย ร้านค้าและร้านอาหาร ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ทำมาหากินลำบากกว่าจะได้มาแต่ละบาท ขโมยออกทำการดึกๆ ฝากเตือนช่วยกันสอดส่องดูแล เก็บข้าวของมีค่าให้มิดชิด เพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าหมาย สงสารโจรจับใจ งัดร้านจนเจ็บมือเจ็บตัว แล้วไม่ได้อะไรไปสักบาท ไม่รู้จะเข็ดไหม แต่ลักษณะคล่องแคล่วว่องไว คงจะเสียเวลาทำมาหากินพี่โจรนิดหน่อย ฝากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ระมัดระวังกันด้วยนะคะ หากใครคุ้นหน้าหรือพอจะมีเบาะแสแจ้งมาได้เลยค่ะ #โจร40บาท " พร้อมรูปภาพคนร้ายที่ก่อเหตุงัดร้านให้ชาวโซเชียลฯ ช่วยแจ้งเบาะแส

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังร้านขายอาหารทะเล ชื่อ ploychompoo seafood station ตั้งอยู่ย่านการค้า ม.2 ต.อ่าวนาง พบนส.เฉลิมพร เงินนุช อายุ 33 ปี เจ้าของร้าน นำคลิปกล้องวงจรปิด ที่บันทึกนาทีคนร้ายปีนเข้าร้านก่อเหตุลักทรัพย์ พร้อมเปิดเผยว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 25 พ.ย. เวลาประมาณตีหนึ่งกว่า จากคลิปวงจรปิดมีคนร้ายเป็นชาย สวมหมวกแก๊ป เสื้อแขนยาว กางเกงแบบสามส่วน รูปร่างเล็กผอม ทำทียืนอยู่หน้าร้าน พอปลอดผู้คนก็ปีนจากด้านหน้าร้านซึ่งมีเพียงกันสาดกั้นไว้ หลังจากนั้นตรงมาที่ประตูชั้นในซึ่งเป็นลูกกรงล็อคกุญแจ คนร้ายพยายามผลักลูกกรงจนพัง ก่อนใช้เก้าอี้มารองแล้วปีนเข้าด้านใน รื้อค้นทรัพย์สิน จากนั้นก็ปีนกลับออกช่องทางเดิมหลบหนี

ด้าน นางสาวสุนิสา หมาดชาย อายุ 32 ปี พนง.ที่มาเปิดร้านในช่วงเช้า เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าได้มาเปิดร้านตามปกติ ต้องตกใจเมื่อพบประตูลูกกรงที่ล็อคกุญแจไว้ สภาพชำรุดแต่กุญแจยังล็อคปกติ ตรวจสอบด้านบริเวณพื้นที่แคชเชียร์ พบสิ่งของถูกรื้อค้นกระจัดกระจายเกลื่อน มีเพียงเงินเหรียญเป็นเงินทอนที่อยู่ในกระปุกประมาณ 40 บาท หายไป หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดจึงแจ้งให้ทางเจ้าของร้านทราบ นางสาวสุนิสา หมาดชาย พนง. เล่าอีกว่าประมาณ 5 เดือนก่อน ได้มีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้นได้เงินไป 2,600 บาท ครั้งนั้นคนร้ายปีนเข้ามาเหมือนกับครั้งนี้ แต่หยิบเอากุญแจภายในตู้ควบคุมแผงไฟไขเข้าไป แต่เสียดายกล้องวงจรปิดในร้านเสียจึงไม่มีหลักฐานจับตัวคนร้าย

น.ส.เฉลิมพร เงินนุช เจ้าของร้าน เผยว่า หลังจากนี้คงต้องทำประตูให้แน่นหนามากขึ้น และคงต้องระมัดระวังกันเอง ไม่เก็บเงินไว้ในร้าน ให้พนง.นำกลับไปด้วยทุกครั้งที่ปิดบริการ เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนเดียวกับที่ก่อเหตุเมื่อ 5 เดือนก่อน เปิดร้านมาปีกว่าครั้งนี้โดนรอบสอง จึงฝากเตือนผู้ประกอบการย่านอ่าวนาง เพิ่มความระมัดระวังเนื่องจากคนร้ายลงมือก่อเหตุบ่อยครั้ง เดือดร้อนทั่วย่านการค้า แม้ทาง ตร. จะออกตรวจความเรียบร้อยทุกคืน คนร้ายก็จะอาศัยจังหวะที่ ตร. เผลอก่อเหตุจนได้