"สบทช.10" จับมือ ปปช.ตรวจสอบท่าเรือขนแร่ยิบซั่ม
21 พ.ย. 2562, 13:57
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2562 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฉลามขาว ร่วมกับสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ชุดสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 4 (ภาคใต้) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนธิกำลังร่วมกันตรวจสอบถนนเส้นทางเข้าท่าเทียบเรือ ซึ่งถูกผู้บริหารท้องถิ่นใช้อำนาจหน้าที่มิชอบ ยกให้นายทุนใหญ่อดีตนักการเมืองใหญ่ ชาว จ.สุราษฎร์ธานี ทำการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลน และตรวจสอบบริเวณก่อสร้างท่าเทียบเรือ หมู่ 6 ต.เขาไม้แก้ว อ.สิเกา จ.ตรัง
ทั้งนี้ พบว่ามีการถมดินบ่อกุ้งเพื่อปรับพื้นที่ มีการขุดลอกขยายลำคลองเดิม เพื่อเปิดเส้นทางสำหรับเรือขนาดใหญ่บรรทุกแร่ยิบซั่มเข้าออก และมีการก่อสร้างลานพื้นปูนซีเมนต์ โดยบริษัท ปัจจะพัฒนาวิศวกรรมและพานิชย์การ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการ จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการรังวัดหาค่าพิกัดดาวเทียมคำนวณพื้นที่บริเวณที่มีการก่อสร้างท่าเทียบเรือ เนื้อที่รวม 66 ไร่ 3 งาน 37 ตารางวา พบว่า อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองกะลาเสและป่าคลองไม้ตาย และในเขตป่าชายเลน ตามมติ ครม.
จากการตรวจสอบเบื้องต้นบริเวณดังกล่าว มีเอกสารหลักฐานทางที่ดินเป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3ก) เลขที่ 495 เล่ม 5 ข หน้า 45 เลขที่ดิน 1 ต.เขาไม้แก้ว อ.สิเกา จำนวน 71 ไร่ 3 งาน 99 ตารางวา ออกเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2527 มี นางอุษา ไทรงาม เป็นผู้ครอบครอง และจากการตรวจสอบการครอบครองปรากฎว่า ได้ขายให้แก่ บริษัท ปัจจะพัฒนาวิศวกรรมและพานิชย์การ จำกัด เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2560
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด นายไมตรี แสงอริยนันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (สบทช.) ที่ 10 กล่าวว่า จากการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ตามหลักฐาน น.ส.3 ก.เลขที่ 495 เนื้อที่ 71 ไร่ 3 งาน 99 ตารางวา ของ นางอุษา ไทรงาม จากสารบบที่ดินจังหวัดตรัง สาขาสิเกา พบว่า ออกมาเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2527 โดยพบว่า นางอุษา ได้ใช้หลักฐาน ส.ค.1 จำนวน 4 ฉบับ รวมเนื้อที่ 74 ไร่ 1 งาน 05 ตารางวา ระบุชื่อผู้ครอบครองคือ นายสุวรรณ แจ้งอักษร ระบุท้องที่หมู่ 3 ต.เขาไม้แก้ว อ.สิเกา ขอออก น.ส.3 ก. เฉพาะราย ตามมาตรา 59 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับลงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2515
โดยเอกสาร ส.ค.1 ทั้ง 4 ฉบับ ได้แก่ แปลงที่ 1 เลขที่ 164 เนื้อที่ 50 ไร่ ระบุการทำประโยชน์สวนมะพร้าว และทำเตาเผาถ่าน, แปลงที่ 2 เลขที่ 156 เนื้อที่ 3-1-05 ไร่ ระบุการทำประโยชน์สวนมะพร้าว, แปลงที่ 3 เลขที่ 157 เนื้อที่ 9 ไร่ ระบุการทำประโยชน์สวนมะพร้าว และแปลงที่ 4 เลขที่ 158 เนื้อที่ 12 ไร่ ระบุการทำประโยชน์สวนมะพร้าว ที่สำคัญพบว่า ตำแหน่งที่ตั้งของ น.ส.3 ก.เลขที่ 495 ฉบับดังกล่าว ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ต.เขาไม้แก้ว แต่เอกสาร ส.ค.1 ที่นำมาขอออก น.ส.3 ก. เลขที่ 495 ระบุตั้งอยู่ที่ 3 ต.เขาไม้แก้ว
ต่อมาได้มีการทำหนังสือสอบถามไปยังอำเภอสิเกาว่า ตำแหน่งที่ดินที่ตั้งแปลง น.ส.3 ก.เลขที่ 495 ฉบับดังกล่าว ในอดีตเคยเป็นหมู่ที่ 3 มาก่อนหรือไม่ ซึ่งอำเภอสิเกา ได้ตอบกลับมาว่า ตามประกาศจังหวัดตรัง เรื่องตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตหมู่บ้าน ลงวันที่ 11 มีนาคม 2531 พบว่า บ้านทุ่งขี้เหล็ก หมู่ที่ 6 ต.เขาไม้แก้ว แยกออกมาจากบ้านเขาไม้แก้ว หมู่ที่ 1 ต.เขาไม้แก้ว และลงวันที่ 24 เมษายน 2534 พบว่า บ้านทุ่งทอง หมู่ที่ 7 ต.เขาไม้แก้ว แยกออกมาจากบ้านแหลมไทร หมู่ที่ 3 ต.เขาไม้แก้ว
จึงพิจารณาแล้วเห็นว่า น.ส.3 ก.เลขที่ 495 ที่บริษัท ปัจจะพัฒนาวิศวกรรมและพานิชย์การ จำกัด นำมาแสดงออกมาจาก ส.ค.1 จำนวน 4 แปลง ระบุที่ตั้ง ส.ค.1 ทั้ง 4 ฉบับ ระบุหมู่ที่ 3 ซึ่งไม่ตรงกับหมู่ที่ตั้งปัจจุบัน ที่ตั้งอยู่ที่ 6 และจากการสอบถามข้อมูลอำเภอสิเกา ไม่พบว่าที่ดินท้องที่ ฉบับ เช่นกัน ดังนั้น จากข้อเท็จจริงดังกล่าวพบว่า น.ส.3 ก.เลขที่ 495 ออกมาผิดตำแหน่งจากที่ตั้ง ส.ค.1 ทั้ง 4 ฉบับ และออกมาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จึงได้ทำหนังสือรายงานกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อเสนอกรมที่ดิน ให้เพิกถอน น.ส.3 ก ออกจากสารบบที่ดินต่อไป
ด้านนายราม วสุธนภิญโญ ผู้อำนวยการ ปปช.ตรัง กล่าวว่า กรณี นายพีระพนธ์ ลังเมือง นายก อบต.เขาไม้แก้ว อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการทุจริตต่อหน้าที่ อนุญาตให้เอกชนบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนทำถนนเข้าไปยังท่าเทียบเรือของเอกชนในพื้นที่ ต.เขาไม้แก้ว ดังกล่าว เรื่องนี้ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงได้ไปดำเนินการในเรื่องของการตรวจสอบมาแล้ว และก็มีการไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบ ซึ่งก็เข้าเงื่อนไขว่าถ้าเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือความผิดเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการทุจริตต่อหน้าที่ ทั้งนี้ เมื่อพนักงานสอบสวนเมื่อได้รับคำร้องทุกข์ จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานภายใน 30 วัน จากนั้นก็จะต้องส่งเรื่องให้ ปปช.เป็นผู้ดำเนินการต่อ
สำหรับเรื่องนี้ ปปช.ตรัง ได้รับเรื่องจากพนักงานสอบสวนแล้ว ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่า ตามที่มีการร้องเรียนกล่าวหาต่างๆ นั้น มีมูลเพียงพอที่จะรับไว้ดำเนินการไต่สวนกับเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือผู้เกี่ยวข้อง ในเรื่องของการอนุญาตให้ใช้พื้นที่ของป่าชายเลนในเขตเขาไม้แก้วหรือเปล่า ซึ่งในส่วนนี้ทาง ปปช.ก็กำลังเร่งรัดดำเนินการอยู่ เนื่องจากคดีที่เกี่ยวข้องกับทางด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถือเป็นนโยบายหลักของคณะกรรมการ ปปช.ที่จะต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพราะถือว่าเป็นสาธารณสมบัติส่วนรวมของประเทศที่จะต้องรักษาไว้