เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 18 พ.ย. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุคนร้าย 2 คน ชิงสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท เหตุเกิดที่ร้านแผงลอยริมถนนบ่อโพธิ์ หมู่ 5 ต.ปากพูน อ.เมือง หลังคนร้ายชิงสร้อยคอทองคำ แล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางถนนอ้อมค่าย จึงประสานสายตรวจรถจักรยานยนต์ ไล่ล่าสกัดจับตามเส้นที่ที่คนร้ายหลบหนี แต่ล่าสุดไร้วี่แวว

ต่อมาตำรวจชุดสืบสวน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมสอบปากคำ นางเพ็ญ แสงสูง อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 290 หมู่ 9 ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช ผู้เสียหาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมด้วยน้องสาวขี่รถจักรยานยนต์กลับจากรับหลานชายที่โรงเรียน มุ่งหน้ากลับบ้านพัก เมื่อถึงที่เกิดเหตุตนจอดรถจักรยานยนต์แวะร้านค้าแผงลอยริมถนน เพื่อซื้อมะละกอกลับเข้าบ้าน แต่ระหว่างนั้นมีคนร้ายเป็นชาย 2 คน อายุประมาณ 25 – 30 ปี รูปร่างผอม ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และไม่สวมหมวกกันน็อค จอดหน้าร้านค้าแผงลอย ก่อนที่คนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายจำได้ว่าสวมเสื้อแจ็ตเก็ตสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ เดินลงจากรถมาร้านแผงลอย ส่วนคนร้ายอีกคนนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์ที่ติดเครื่องยนต์รออยู่ริมถนน จากนั้นคนร้ายทำทีแกล้งถามราคากล้วยน้ำว้า ขณะที่ผู้เสียหายกำลังยืนก้มเลือกมะละกออยู่บนแผง

ทันใดนั้นคนร้ายได้กระชากสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทที่สวมคอ จนเกิดยื้อแย่งสร้อยคอทองคำกับคนร้าย จังหวะนั้นเองคนร้ายชักอาวุธมีดออกมาข่มขู่ว่าอย่าต่อสู้ขัดขืนไม่นั้นจะแทงกับมีดให้ตาย ด้วยความกลัว ผู้เสียหายจึงหยุดยื้อแย่งสร้อยคอทองคำกับคนร้าย จากนั้นคนร้ายได้สร้อยคอทองคำแล้ววิ่งขึ้นไปซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ขี่หลบหนีไปทางถนนอ้อมค่าย เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังตนมา เพื่อหาโอกาสจี้ชิงสร้อยคอทองคำผู้เสียหาย เนื่องจากผู้เสียหายสวมเสื้อยืดคอกลมกว้าง จึงล่อตาล่อใจคนร้าย แต่ผู้เสียหายแวะซื้อมะละกอที่ร้ายค้าแผงลอย ซึ่งระหว่างเกิดเหตุมีเพียงเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ คนร้ายจึงลงมือก่อเหตุชิงสร้อยคอทองคำหลบหนีไป ซึ่งทางตำรวจจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีเพื่อหารูปพรรณคนร้าย และติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป