เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"เลขา ส.ป.ก." สั่งชี้แจงกรณีมอบสิทธิ หลังเป็นกระแสโซเชียล ด้านแกนนำแฉมี "นอมินี" รับแทนนายทุน จี้รัฐตรวจสอบ


17 พ.ย. 2562, 10:16



"เลขา ส.ป.ก." สั่งชี้แจงกรณีมอบสิทธิ หลังเป็นกระแสโซเชียล ด้านแกนนำแฉมี "นอมินี" รับแทนนายทุน จี้รัฐตรวจสอบ




เลขา ส.ป.ก.สั่งชี้แจงกรณีมอบสิทธิ ที่เป็นกระแสโซเชียล ด้านแกนนำชาวบ้านเรียกร้องที่ทำกินกระบี่ แฉมี “นอมินี” รับแทนนายทุน จี้รัฐตรวจสอบ กรณีมีกระแสโซเชียล วิพากษ์วิจารณ์การแจก ส.ป.ก.4-01 ในพื้นที่ จ.กระบี่ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมาเป็นประธานมอบให้กับผู้ผ่านการพิจารณาให้รับที่ดิน 335 ราย เนื้อที่กว่า 4 พันไร่ ในพื้นที่ จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในผู้รับมอบ คือ นายสมัชชา เอ่งฉ้วน อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 2 จ.กระบี่ รับมอบที่ดิน ส.ป.ก.จำนวน 16 ไร่เศษ ซึ่งผู้คนพากันวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องคุณสมบัติว่าเหมาะสมหรือไม่ ต่อมาเจ้าตัวออกมาชี้แจงว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีการครอบครองมาก่อนจะมีการประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดินนั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 พ.ย.62 ทางสำนักเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม สั่งการให้ จ.อ.วันชัย เกิดด้วยทอง ปฏิรูปที่ดิน จ.กระบี่ ทำรายงานชี้แจงรายละเอียดกรณีการจัดที่ดินในเขตปฏิรูป มอบให้กับนายสมัชชา เอ่งฉ้วน อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 2 จ.กระบี่ ซึ่งมอบโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ โดยรายละเอียดในรายงานชี้แจงบางส่วน ระบุว่า แปลงที่ดินที่ปรากฎข้อความและการแชร์ในโซเซียลมีเดีย ตั้งอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินโครงการที่สาธารณประโยชน์ทุ่งหน้าวัว ท้องที่หมู่ที่ 5 ตำบลทับปริก อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ตามผลการรังวัดแปลงเลขที่ 1 ระวางที่ 4725 / 8406 เนื้อที่ประมาณ 16-2-80 ไร่ ที่ดินดังกล่าวได้มาโดยนายสมเกียรติ เอ่งฉ้วน บิดานายสมัชชา เป็นผู้ยกให้ เมื่อประมาณปี พ.ศ.2550 มีลักษณะการทำประโยชน์โดยปลูกปาล์มน้ำมัน ต่อมานายสมัชชา ได้ยื่นคำขอเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินแปลงเลขที่ 1 เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.62 ภายหลังไม่ได้รับเลือกตั้งให้เป็น ส.ส.จ.กระบี่ เขต 2 เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.กระบี่ สอบสวนสิทธิ ปรากฏว่า เป็นผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักโดยใช้เวลาส่วนใหญ่ในรอบปี เพื่อประกอบเกษตรกรรมแห่งท้องถิ่นนั้น ได้ครอบครองและทำประโยชน์อยู่ในแปลงที่ดิน มีที่ดินอื่นทั้งที่อยู่ในเขตและนอกเขตปฏิรูปที่ดิน เมื่อรวมกับที่ดินที่จะได้รับจากการปฏิรูปที่ดินแล้วไม่เกิน 50 ไร่ ตามระเบียบที่ ส.ป.ก. กำหนด ตรวจสอบพบมีโฉนดที่ดิน ที่นายสมัชชา มีอยู่ก่อนแล้วเนี้อที่ 1 ไร่เศษ คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินอำเภอเมืองกระบี่ ในการประชุมครั้งที่ 2/2562 เมื่อวันที่ 20 ส.ค.62 ได้มีมติเห็นชอบการมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ของ ส.ป.ก.รายนายสมัชชา เอ่งฉ้วน เพื่อนำเสนอคณะกรรมการปฏิรูปที่ดิน จ.กระบี่ พิจารณาอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินต่อไป

 

 



คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดกระบี่ในการประชุมครั้งที่ 3/2562 เมื่อวันที่ 4 ก.ย.62 ได้มีมติอนุญาตให้นายสมัชชา เอ่งฉ้วน เข้าทำประโยชน์ในที่ดินเขตปฏิรูปที่ดินแปลงข้างต้น ครบกำหนดระยะเวลาการประกาศผลการคัดเลือกเกษตรกรให้เข้าทำประโยชน์ ในเขตปฏิรูปที่ดิน จ.กระบี่ ปรากฏว่าไม่มีผู้ใดคัดค้านแต่อย่างใด นายสมัชชา เอ่งฉ้วน ได้รับ ส.ป.ก.4-01 เมื่อวันที่ 12 ต.ค.62 ณ โรงเรียนพนมเบ็ญจา อ.เขาพนม จ.กระบี่ พร้อมเกษตรรายอื่นๆ โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้มอบขณะเดินทางมาตรวจราชการ ณ จ.กระบี่ เมื่อมีการประกาศให้เกษตรกรยื่นคำขอเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน เป็นหน้าที่ของ สนง.การปฏิรูปที่ดินจังหวัด ที่จะต้องพิจารณาให้ความเห็นเสนอคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด ซึ่งมีอำนาจพิจารณาอนุมัติให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูป และจะต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 180 วัน นับแต่วันที่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด ประกาศให้เกษตรกรในท้องที่ยื่นคำขอเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินซึ่งกำหนดระยะเวลา 180 วัน ครอบคลุมไปถึงขั้นตอนการออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินด้วย ตามระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือกเกษตรกร ซึ่งจะมีสิทธิได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2535 ข้อ 8 วรรคสอง ข้อ 9 วรรคหนึ่ง และข้อ 11 และระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วยการออก แก้ไขเพิ่มเติม เพิกถอน และออกใบแทนหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ.2540 หากตรวจสอบพบว่า ผู้ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปขาดคุณสมบัติในภายหลัง สามารถพิจารณาข้อเท็จจริงนำเสนอคณะกรรมการปฏิรูปที่ดิน จ.กระบี่ พิจารณาทบทวน หรือเพิกถอนตามระเบียบที่ ส.ป.ก.กำหนดต่อไปได้

 

 


ด้านนายชูวงศ์ มณีกุล แกนนำกลุ่มชาวบ้านที่ปักหลักเรียกร้องให้รัฐ นำทีมดินสวนปาล์มหมดสัมปทานใน จ.กระบี่ 7.8 หมื่นไร่ มาจัดสรรให้กับคนยากจน ซึ่งปักหลักชุมนุมยืดเยื้ออยู่หน้าศาลากลาง จ.กระบี่ เปิดเผยด้วยว่า กรณีการมอบ ส.ป.ก.ของ รมช.กระทรวงเกษตรฯ ซึ่งมามอบให้กับเกษตรกรใน จ.กระบี่ นั้น ตนตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า มีผู้รับมอบหลายรายที่ถือสิทธิครอบครองแทนบุคคลอื่น ซึ่งบางส่วนมีกลุ่มนายทุนอยู่เบื้องหลัง เพราะเกษตรกรที่เข้ารับ ส.ป.ก.ในวันเดียวกับนายสมัชชา บางคนไม่ได้มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ทำกินจริง บางคนอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง แต่มารับสิทธิทำกินในพื้นที่ จ.กระบี่ จึงอยากให้ทางกระทรวงเกษตรฯ ตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบผู้ได้รับสิทธิอย่างละเอียดรอบคอบอีกครั้ง ที่ผ่านมาเคยเกิดปัญหานอมินีถือครองพื้นที่ ส.ป.ก.แทนบริษัทเอกชนเกือบ 4 พันไร่ ซึ่งต่อมามีการตรวจสอบจนถูกเพิกถอนสิทธิไปแล้วใน จ.กระบี่ นายชูวงศ์ กล่าวต่อว่า กรณีของนายสมัชชา นั้น ตนมองว่าแม้คุณสมบัติจะถูกต้องตามหลักเกณฑ์ แต่มองว่าไม่เหมาะสมเพราะเป็นนักการเมือง ที่ผ่านมาตนและชาวบ้านที่ไร้ที่ดินทำกิน ต่างออกมาเรียกร้องเรื่องที่ดินทำกิน วิงวอนขอร้องให้รัฐเร่งนำพื้นที่ป่าที่หมดสัมปทานใน จ.กระบี่ มาจัดสรรให้กับผู้ยากไร้ เรียกร้องมานาน 7 ปี แต่ทุกวันนี้ชาวบ้านยังไม่ได้สิทธิทำกิน แต่กลับตรงข้ามกันเมื่อนักการเมืองร้องขอที่ดินป่า รัฐก็จัดสรรให้ทันที ในอดีตเคยมีปัญหากรณี ส.ป.ก.ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เป็นบทเรียนมาแล้วแต่รัฐบาลยังไม่เข็ดหราบ จึงเรียกร้องให้มีการตรวจสอบกระบวนการออก ส.ป.ก.อีกครั้ง เพราะเป็นช่องทางเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มนักการเมือง และนายทุน ในการฮุบที่ของรัฐ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากการตรวจสอบกลุ่มเกษตรกรที่รับมอบที่ดิน ส.ป.ก.ของ จ.กระบี่ ที่รับมอบพร้อมกับนายสมัชชา ยังมีบางรายที่อาจจะเข้าข่ายไม่เหมาะสม โดยหนึ่งในนั้นเป็นที่ดินของอดีต ข้าราชการระดับสูงคนหนึ่งใน จ.กระบี่ ที่ใช้ชื่อของบุคคลอื่นมารับสิทธิครอบครองแทน ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ใน อ.เขาพนม จ.กระบี่ เนื้อที่ 9 ไร่เศษ

 

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.