ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นางอุษณี รัตนะ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/46 หมู่ 11 ตำบลวังไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร เจ้าของแฟรนไชส์กล้วยปิ้ง ร.ศ. 112 ว่า ปัจจุบันนี้ กล้วยปิ้ง ร.ศ.112 มีผู้คนสนใจโดยติดต่อซื้อแฟรนไชส์แล้วถึง 8 สาขา โดยสาขาแรกที่เป็นของตนเองเริ่มเปิดนั้น เปิดขายในห้างโลตัสชุมพร และเริ่มขายแฟรนไชส์ไปเรื่อยๆ จนขณะนี้เพียง 3 เดือน มีคนซื้อไปเปิดร้านถึง 8 สาขาแล้ว และเป้าหมายขณะนี้ กำลังซื้อแฟรนไชส์ จะไปเปิดที่ จังหวัดระนอง และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์อีกด้วย

นางอุษณี รัตนะ กล่าวว่า สำหรับราคาแฟรนไชส์จะ มี 3 ราคา ราคาแรก 15,900 คือ คนที่ มีบูธ หรือ ต้องการทำบูธ เองเป็นชุดเริ่มต้น ลงทุน ไม่แพง ได้ อุปกรณ์พร้อมขายครบ ราคาที่สอง ราคา 22,900 คือ มีบูธ ขนาด 120×80 ราคาที่สามคือ ราคา 26,900 บูธ ขนาด 150×80 โดยทั้งสามราคา จะมีกล้วยท่ายาง 30 หวี และน้ำเชื่อมไว้ราดกล้วยอีก 30 กิโล แถมให้ หลังจากนั้นลูกค้าที่ซื้อแฟรนไชส์จะต้องซื้อน้ำราด ถุงละ 2 กิโล ราคา 175 บาท ซึ่งลูกค้าที่ซื้อแฟรนไชส์ไปนั้นจะได้รับคำแนะนำในทุกๆ ขึ้นตอน ไม่ว่าในเรื่องของการเก็บกล้วยไว้ให้ได้นานโดยที่ไม่ให้สุกจนเกินไป และการทุบกล้วยโดยใช้ไม้ค่อยๆ ทุบกล้วยที่ละชิ้น จะไม่ใช้วิธีการทับให้กล้วยแบนเพราะเนื้อของกล้วยนะถูกหนีบจนแบนและแน่นจนน้ำที่ราดไม่สามารถซึมเข้าไปในเนื้อกล้วยได้ รวมถึงวิธีการปิ้งกล้วยให้สุกพอดีกิน

นางอุษณี กล่าวต่อว่า จุดเด่นของกล้วยปิ้ง ร.ศ.112 คือจะเป็นกล้วยของตำบลท่ายางที่เป็นกล้วยไส้เหลือง ไม่มีเม็ด มีความเหนียว นุ่ม และในส่วนของน้ำราดที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน ซึ่งจะใช้น้ำผึ้งกับน้ำตาลมะพร้าวแท้ๆ จากอำเภอสวี จังหวัดชุมพร มาเคี้ยวจนได้ที่และนำมาอบด้วยควันเทียนเพิ่มความหอม ทำให้ลูกค้าที่มาซื้อไปรับประทาน แล้วสนใจสั่งซื้อแฟรนไชส์ของเราเพื่อจะเปิดร้านขาย

ในขณะเดียวกัน นางดวงกมล ดำจีน อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 221/108 หมู่บ้านไทยสมุทร ตำบลวังไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร เป็นภรรยาของนายตำรวจ สภอ.เมือง ได้ซื้อแฟรนไชส์กล้วยปิ้ง ร.ศ.112 มาขายในปั๊มน้ำมัน ปตท. โดย นางดวงกมล เล่าให้ฟังว่า สาขาที่ตนเองเปิดนี้ เปิดมาประมาณสองเดือนกว่าๆ แล้ว โดยมีลูกค้าแวะเวียนมาซื้ออย่างต่อเนื่อง ด้วยจุดเด่นคือกล้วยที่ไม่มีเม็ด ไส้เหลือง หวาน นุ่ม เป็นกล้วยของตำบลท่ายาง โดยทางร้านจะติดต่อกับเจ้าของสวนกล้วยโดยตรงเพื่อที่จะได้มีกล้วยมาขายได้ตลอดทั้งปี รวมไปถึงน้ำราดที่เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า ที่มีความแตกต่างจากที่อื่นๆ ที่มีกลิ่นของควันเทียนให้ความหวานหอม โดยทางร้านจะเปิดขายตั้งแต่ประมาณ 09.00 น. จนถึงประมาณ 15.00 น. ราคาที่ขายชุดละ 30 บาท โดยในแต่ละวันจะมีลูกค้าแวะเวียนมาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนแก่ที่เป็นลูกค้าขาประจำที่ชื่นชอบในความนุ่มของกล้วย และคนรักสุขภาพที่ชอบทานกล้วยก็จะมาซื้อกล้วยปิ้งที่ร้าน

นางดวงกลม เล่าให้ฟังอีกว่า บางคนจะมาถามว่าคุณนายต้องมาขายกล้วยปิ้งเลยเหรอ ขายกล้วยปิ้งแล้วจะได้อะไร นางดวงกมล เปิดเผยว่า สามารถขายได้วันวันละประมาณ 40 ชุด รายได้ต่อเดือนที่ขายกล้วยปิ้งประมาณเดือนละ 40,000 บาท ซึ่งเป็นงานที่ไม่หนักและได้เงินเหมือนอาชีพอื่นๆ

นางอนัญญา เจียรจิระธิกุล อายุ 44 อยู่บ้านเลขที่ 211/5 หมู่ 13 ตำบลวังไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ลูกค้าประจำที่มาซื้อกล้วยที่สาขาปั๊ม ปทต. แห่งนี้เป็นประจำ เปิดเผยว่า มีความชื่นชอบรสชาติของน้ำราดที่ไม่มีส่วนผสมของกะทิ มีความหวานของน้ำตาลมะพร้าวแท้ๆ และที่สำคัญกล้วยมีความเหนียวและไม่มีเม็ด เมื่อทานเข้าไปไม่ต้องระวังว่าจะเจอเม็ดกล้วย

หากใครสนใจอยากจะเปิดร้านขายกล้วยปิ้งที่ได้เงินแบบกล้วยๆ สามารถติดต่อไปได้ที่ นางอุษณีย์ รัตนะ เบอร์ติดต่อ 099-8627045 เฟสบุ๊ค ชื่อ แฟรนไชส์กล้วยปิ้ง ร.ศ. 112 และหากใครอยากลองชิมกล้วยที่มากด้วยประโยชน์และอร่อยด้วยน้ำราดที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายสามารถไปชิมได้ทั้ง 9 สาขา