เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 30 ต.ค. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พ.ต.ท.สันติ บุญชู รอง ผกก.ป.รักษาราชการแทน ผกก.สภ.โซ่พิสัย อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ได้รับการประสานจาก พ.ต.ต.เมธี ศรีวันนา สว.สภ.โคกสี ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ว่าได้จับกุมตัว นายสมพงษ์ ชะโรยศรี อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 29 หมู่ที่ 4 บ้านสามหนอง ต.บัวตูม อ.โซ่พิสัย พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟไอสำส้ม-ดำ ทะเบียน 1 กย 3320 อุดรธานี ไว้ สงสัยจะเป็นหัวขโมยลักรถจักรยานยนต์ตามที่ได้แจ้งหายเอาไว้ จึงได้สั่งการให้ ร.ต.อ.วิเชียร ตรีรัตน์ รอง สว.สส.พร้อมพวกนำกำลังไปรับตัวผู้ต้องหาคนดังกล่าว ซึ่งของกลางรถจักรยานยนต์เป็นคันเดียวกันที่มีผู้เสียหายได้มาแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้จริง จึงนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.โซ่พิสัย ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาได้ให้การวกไปวนมาพูดจาแทบจะไม่รู้เรื่อง เนื่องจากยังเมาสารระเหยอยู่ โดยตรวจพบกาวปะยางรถในช่องเก็บของใต้เบาะรถเหลืออยู่ครึ่งกระป๋อง
 

 

 

ต่อมา นายจำรอง นาจันทอง อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 63 หมู่ที่ 14 บ้านโนนวิทยา ต.บัวตูม ได้เดินทางมาพบ ร.ต.อ.ศักดิ์ชัย พันธวงษ์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.โซ่พิสัย เจ้าของคดีที่ได้รับแจ้งความรถหายเอาไว้เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา เพื่อมาดูของกลางและคนร้ายที่มาขโมยเอาไป ซึ่งก็ยืนยันว่ารถคันดังกล่าวเป็นของตนที่หายไป รู้สึกดีใจที่ได้รถคืนต้องขอขอบคุณตำรวจ สภ.โซ่พิสัย ที่ติดตามตัวคนร้ายให้ตั้งแต่วันแรกที่มาแจ้งความจริงๆ แล้วเป็นความสะเพร่าของตนเองที่จอดรถเอาไว้โดยไม่ได้ถอดลูกกุญแจออก คิดว่าจะเดินลงไปดูนาข้าวที่กำลังแห้งตายเพราะภัยแล้งและกำลังวางแผนทดน้ำเข้านา ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากจุดจอดรถและเป็นทางตัน พอหันหลังให้ประมาณ 5 นาที ก็ได้ยินเสียงสตาร์ทรถ พอหันกลับไปมองเห็นคนร้ายขี่รถของตนหนีเข้าไปในหมู่บ้าน ตนได้แต่วิ่งตามและเรียกให้คนช่วยแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว

พ.ต.ท.สันติ บุญชู ได้ฝากเตือนพี่น้องประชาชนว่า ทุกครั้งที่จอดรถทิ้งเอาไว้จะต้องถอดกุญแจรถไปด้วยทุกครั้ง หากมีอุปกรณ์ป้องกันการถูกขโมยก็ต้องล็อคกุญแจทุกครั้งเช่นกัน นอกจากจะเป็นการป้องกันการถูกลักขโมยแล้วยังทำให้การขโมยเป็นไปได้ยากหรือเป็นการถ่วงเวลาเผื่อเจ้าของรถหรือคนอื่นอาจมาพบเห็นการโจรกรรมเสียก่อน อาจทำให้แผนการขโมยถูกยกเลิกไปได้ จากนั้นได้มอบกุญแจรถคืนให้นายจำรองนำรถกลับไปใช้ ส่วน นายสมพงษ์ ผู้ต้องหาถูกแจ้งข้อหาลักทรัพย์และเสพสารระเหยเพื่อบำบัดความต้องการของร่างกายหรือจิตใจดำเนินคดีต่อไป