ไปต่อไม่ไหว ! "ไบโอเธิร์ม" สกินแคร์ชื่อดัง ประกาศปิดเคาน์เตอร์ในห้างฯ ตั้งแต่ 1 ต.ค. 67
24 ส.ค. 2567, 14:04
Biotherm แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชั้นนำจากฝรั่งเศส ได้ประกาศยุติการดำเนินงานในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยจะเริ่มปิดให้บริการเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป การตัดสินใจครั้งนี้อาจเป็นผลมาจากหลายปัจจัย เช่น การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น หรือการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจของแบรนด์ในระดับโลก
อย่างไรก็ตาม เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่ยังคงต้องการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ Biotherm จะยังคงเปิดให้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ ได้แก่ Lazada และ Line Official Biotherm Thailand ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 นี่แสดงให้เห็นว่า Biotherm ยังคงให้ความสำคัญกับลูกค้าในประเทศไทย และต้องการมอบทางเลือกในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของตน แม้จะไม่มีเคาน์เตอร์ในห้างแล้วก็ตาม
Biotherm ประเทศไทย ได้แสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อลูกค้าทุกท่านสำหรับความรัก ความผูกพัน และการสนับสนุนที่มอบให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พร้อมทั้งขออวยพรให้ลูกค้าทุกท่านมีสุขภาพที่ดีและผิวพรรณที่งดงามอยู่เสมอ นี่สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันดีที่ Biotherm ได้สร้างขึ้นกับลูกค้าชาวไทย และความปรารถนาดีที่แบรนด์มีต่อผู้บริโภค
แม้การปิดตัวของ Biotherm ในประเทศไทยจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายสำหรับลูกค้าที่คุ้นเคยกับการซื้อสินค้าที่เคาน์เตอร์ แต่ก็เป็นเครื่องยืนยันถึงความเปลี่ยนแปลงในตลาดค้าปลีกและพฤติกรรมผู้บริโภคที่กำลังมุ่งสู่ช่องทางออนไลน์มากขึ้น การปรับตัวของแบรนด์เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบัน
สำหรับลูกค้าที่ยังต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ Biotherm ยังมีเวลาอีก 3 เดือนในการซื้อสินค้าที่เคาน์เตอร์ และอีก 4 เดือนสำหรับการซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ก่อนที่แบรนด์จะยุติการดำเนินงานในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์จาก Biotherm และบอกลาแบรนด์ที่หลายคนรัก
การตัดสินใจของ Biotherm ที่จะยุติการดำเนินงานในประเทศไทย แม้จะเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมความงาม ซึ่งอาจมีสาเหตุหลายประการดังนี้
การเติบโตของตลาดออนไลน์: พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว หันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้แบรนด์ต่างๆ ต้องปรับตัวตาม หากไม่สามารถแข่งขันในตลาดออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจส่งผลกระทบต่อยอดขายและความสามารถในการทำกำไร
การแข่งขันที่รุนแรง: ตลาดสกินแคร์ในประเทศไทยมีการแข่งขันสูง มีทั้งแบรนด์ท้องถิ่นและแบรนด์ต่างประเทศจำนวนมาก การรักษาส่วนแบ่งการตลาดและสร้างความแตกต่างให้โดดเด่นเป็นเรื่องท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ที่มีราคาสูงอย่าง Biotherm
ต้นทุนการดำเนินงาน: การเปิดและดูแลเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้ามีต้นทุนสูง ทั้งค่าเช่าพื้นที่ ค่าจ้างพนักงาน และค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการอื่นๆ หากยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าหมาย อาจทำให้แบรนด์ต้องพิจารณายุติการดำเนินงานในบางตลาด
การปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ: บริษัทแม่ของ Biotherm อาจมีการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจในระดับโลก โดยมุ่งเน้นไปที่ตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงกว่า หรือช่องทางการขายที่มีประสิทธิภาพมากกว่า
แม้ว่า Biotherm จะไม่ได้เปิดเผยสาเหตุที่แท้จริงของการยุติการดำเนินงานในประเทศไทย แต่ปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นน่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจครั้งนี้ การปรับตัวเข้าสู่ช่องทางออนไลน์เต็มรูปแบบ แสดงให้เห็นว่า Biotherm กำลังพยายามตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม การปิดตัวของ Biotherm ในประเทศไทยก็เป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้แต่แบรนด์ที่มีชื่อเสียงและมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง ก็ยังต้องเผชิญกับความท้าทายและความไม่แน่นอนในโลกธุรกิจยุคปัจจุบัน การปรับตัวและการสร้างความแตกต่างอย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกแบรนด์ที่ต้องการประสบความสำเร็จในระยะยาว