วันนี้ ( 14 ส.ค.67 ) ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 4 ให้นายเศรษฐ ทวีสิน สิ้นสุดการเป็นนายกรัฐมนตรี โดยจากนั้น นายเศรษฐา ทวีสิน ให้สัมภาษณ์ครั้งแรกหลังฟังคำตัดสิน โดยระบุว่า ขอขอบคุณตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ให้โอกาสทุกฝ่ายให้การชี้แจงประเด็นทั้งหลาย ยืนยันเคารพในคำพิพากษา ตลอดระยะเวลา 1 ปีในการดำรงตำแหน่งมีความตั้งใจจริงในการทำงาน ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต ยืนยันว่าไม่ได้ทำตัวเป็นที่ขัดแย้งของทุกคน 

ขอต่อสู้คดีพลาดตรงไหน? นายเศรษฐา ระบุว่า ไม่ทราบ เพราะตนได้ฟังแค่ตอนจบ

มีการพูดถึงเรื่องการผิดจริยธรรมร้ายแรง เท่ากับเป็นการตัดสิทธิ์ทางการเมืองหรือไม่? นายเศรษฐา ระบุว่า ตนไม่ได้ดูตรงคำว่าจะตัดสิทธิ์หรือไม่ แต่ตนเสียใจตรงที่ว่าจะถูกมองเป็นนายกฯที่ไม่มีจริยธรรม ซึ่งตนยืนยันว่าตนไม่ใช่บุคคลอย่างนั้น แต่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินมาแล้ว ตนก็น้อมรับ

ฝากอะไรกับคนที่จะเข้ามาทำหน้าที่ต่อ? นายเศรษฐา ระบุว่า ตนว่าไม่จำเป็นต้องฝากอะไร ทางคณะรัฐมนตรีในขณะนี้ก็ยังรักษาการอยู่ตามความเข้าใจของตน ส่วนรองนายกฯภูมิธรรม ก็กำลังหาไฟลท์บินกลับมาจากคาซัคสถานอยู่ แต่หากไม่ทันก็จะเป็นท่านรองนายกฯสุริยะ ท่านก็อยู่มาหลายรัฐบาลแล้วมีประสบการณ์การบริหารราชการแผ่นดิน ตนมั่นใจในทีมงาน และกระบวนการสรรหานายกฯก็ต้องผ่านสภาฯ อันนี้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย

คิดว่าเป็นการวางยาหรือไม่ ? นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่เคยคิดแบบนั้น ไม่เคยกล่าวโทษคนนั้น คนนี้ ตนไม่เชื่อแบบนั้น

การก้าวเข้ามาสู่การเมืองในครั้งนี้ ได้บทเรียนราคาแพงอะไรบ้าง? นายเศรษฐา ระบุว่า ตนไม่อยากมองในแง่ลบ ในเมื่อศาลตัดสินมาแล้วไม่เป็นไปอย่างที่เราคาดหวัง การที่บอกว่าเป็นบทเรียนราคาแพง หรือ โดนวางยาอะไร ตนคิดว่าไม่ควรไปกล่าวถึงตรงนั้น เราน้อมรับคำตัดสินและเดินหน้าต่อไปดีกว่า ให้กระบวนการนิติบัญญัติ และสภาฯ ดำเนินเรื่องในการสรรหานายกรัฐมนตรีคนต่อไป