“เทนนิส” พาณิภัค  วงศ์พัฒนกิจ แชมป์เทควันโด รุ่น 49 กก.หญิง โอลิมปิกของไทย เผยว่า ภูมิใจมากๆที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์ให้กับประเทศไทยได้ เพราะเหรียญนี้มันก็เหมือนตอบแทนความมุ่งมั่นทุกหยาดเหงื่อของหนูเป็นอย่างดี รู้สึกดีใจ ขอบคุณโค้ชเช ขอบคุณ "บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ขอบคุณโค้ช และเพื่อนๆทุกคน ที่ช่วยกันผลักดันมาจนถึงวันนี้ ทำให้ประสบความสำเร็จอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน

“เหรียญทองแรกที่ โตเกียวเกมส์ กับเหรียญที่สอง ครั้งนี้ ต่างกันตรงที่ทุกคนพยายามจะแก้เกม พยายามศึกษาตนมามากกว่าเดิม เพราะเขารู้ว่าตนมีอะไร เก่งท่าอะไร ความท้าทายคือต้องศึกษาทุกรูปแบบกับนักกีฬาทุกคน รู้สึกท้าทายมากๆ”

เทนนิสกล่าวต่อไปว่า เกิดความเครียดมากๆ แต่ก็มีนักจิตวิทยาช่วยดู คุยกันมาตลอดเพื่อไม่ให้กดดัน ให้คิดว่าเป็นปารีส โอเพ่น หรือเป็นแมตช์ธรรมดา เพราะคู่ต่อสู้ที่เคยเจอเคยเจอกันมาหมดแล้ว เคยแพ้ชนะกันมาหมดแล้ว แล้วก็รู้เป็นอย่างดีว่าใครมีข้อดีข้อเสียอย่างไร เพราะฉะนั้นเลยคิดว่าเป็นแมตช์ธรรมดาทั่วไป เลยคลายความกังวลได้  บอกกับตัวเองว่าให้อยู่กับปัจจุบัน ให้มีสติ ทุกครั้งก็รีเซ็ตใหม่ ทุกแต้มมันยังเปลี่ยนแปลงได้ เพราะฉะนั้นทำมันเต็มที่

"ช่วง เวลาสำคัญนั่นก็คือ 30 วินาทีสุดท้าย หนูรู้สึกว่ามันเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตแล้ว แล้วหนูไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ขอใส่เต็มที่หมดแม็ก อย่างที่เคยบอก ถ้าวันนี้จะแพ้ ก็ขอแพ้อย่างทำเต็มที่แล้ว เลยพยายามเตะเข้าไป แล้วก็เตะโดน เลยบอกโค้ชเชให้ขอ วิดีโอ รีเพลย์ แล้วมันก็ออกมาได้ดั่งใจ ทุกอย่างให้เหมือนเป็นครั้งสุดท้าย แล้วก็เอ็นจอยกับเกม เลยทำให้ปลดล็อกสำเร็จ"

สำหรับเหรียญทอง ครั้งนี้ถือเป็นของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดในชีวิต และก็อยากจะมอบให้กับคนไทยทุกคน เพราะทุกคนตั้งตาลุ้นไปกับหนูด้วย เพราะหนูมีอาการบาดเจ็บที่เยอะมากๆ หลายคนก็มีความสงสารหนู ก็อยากจะมอบตอบแทนกลับไปให้กับทุกคน

ส่วนเรื่องที่เคยประกาศไว้ว่าโอลิมปิกเกมส์ ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายในนามทีมชาตินั้น เทนนิส เผยว่า ตอนนี้คิดหนัก ขอคิดดูก่อน แต่อยากจะไปทำหน้าที่อย่างอื่น เพราะว่ามียิมเทควันโดชื่อ พาณิภัค ใครสนใจก็สามารถติดต่อได้