"พิชัย" หารือเลขาฯพรรคเสรีประชาธิปไตยญี่ปุ่น สานความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน
1 ส.ค. 2567, 15:51
วันนี้ ( 1 ส.ค.67 ) เวลา 09.30 น. ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พบหารือกับนายโมเตกิ โทชิมิตสึ (Mr. Motegi Toshimitsu) เลขาธิการพรรคเสรีประชาธิปไตย (Liberal Democratic Party) ประเทศญี่ปุ่น สรุปสาระสำคัญดังนี้
รองนายกรัฐมนตรีฯ กล่าวต้อนรับและยินดีที่ได้พบหารือในวันนี้ ญี่ปุ่นมีการลงทุนในไทยมาอย่างยาวนาน จึงยินดีที่เลขาธิการพรรคฯ และคณะเดินทางมาเยือนไทยเพื่อส่งเสริม และสานต่อความร่วมมือให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ และพลังงานสีเขียว ด้วยรัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับภาคเอกชนญี่ปุ่น ดังจะเห็นได้จากมาตรการส่งเสริมการลงทุนโดย BOI และกระทรวงการคลัง รวมทั้งให้ความสำคัญกับญี่ปุ่นในช่วงการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมสำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engine: ICE) และ Hybrid รวมถึงนโยบาย/มาตรการอื่น ๆ ที่จะอำนวยความสะดวกและเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการลงทุน
ด้านเลขาธิการพรรคเสรีประชาธิปไตย กล่าวเป็นเกียรติที่ได้พบรองนายกรัฐมนตรีฯ ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำความรู้จักและความคุ้นเคย สานต่อความสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีในแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น พร้อมแสดงความยินดีและชื่นชมรัฐบาลในการจัดงานในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา ซึ่งมีการจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ทั่วประเทศ ทั้งนี้ ขอบคุณประเทศไทยสำหรับการดูแลความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับญี่ปุ่นในทุกระดับ มีชาวญี่ปุ่นอาศัยในประเทศไทยกว่า 7 หมื่นคน บริษัทเอกชนญี่ปุ่นกว่า 6 พันบริษัท ซึ่งถือว่ามากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือในประเด็นที่สนใจร่วมกัน ดังนี้
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะจับมือและสนับสนุนซึ่งกันและกันต่อไป เพื่อต่อสู้กับความท้าทายที่ทั้งสองฝ่ายต่างเผชิญอยู่ โดยรองนายกรัฐมนตรีฯ หวังว่า เลขาธิการพรรคฯ จะช่วยสนับสนุนให้ภาคเอกชนญี่ปุ่นมาลงทุนที่ไทยมากขึ้น และสร้างเสริมความเป็นหุ้นส่วนกับภาคเอกชนไทยมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ร่วมกันทั้งสองประเทศ โดยอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นอุตสาหกรรมที่ทั้งไทยและญี่ปุ่นให้ความสำคัญ และมีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลไทยได้ส่งเสริมความร่วมมือกับผู้ประกอบการต่างประเทศมาโดยตลอด และพร้อมดูแลผู้ประกอบการญี่ปุ่นในไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเลขาธิการพรรคฯ หวังว่าไทยจะสานต่อการพัฒนาความร่วมมือ รวมถึงตระหนักถึงความท้าทายต่างๆ ร่วมกัน เพื่อเดินหน้าความร่วมมือระหว่างกันต่อไป
รองนายกรัฐมนตรีฯ กล่าวว่า การสมัครเข้าเป็นสมาชิก OECD ของไทย เป็นการแสดงเจตนารมณ์ที่จะส่งเสริมสภาพแวดล้อมและบรรยากาศในการลงทุนให้แก่นักลงทุนชาวต่างชาติ ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนญี่ปุ่นสามารถลงทุนที่ไทยได้อย่างมากยิ่งขึ้น ซึ่งญี่ปุ่นพร้อมสนับสนุนให้ความช่วยเหลือเพื่อให้การเข้าเป็นสมาชิกของไทยดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนอย่างเป็นกันเองถึงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีฯ ได้แสดงความยินดีกับความความสำเร็จของคณะนักกีฬาทีมชาติญี่ปุ่นที่เหรียญทองเป็นลำดับที่ 1 ของทุกประเทศในขณะนี้ ด้านเลขาธิการพรรคฯ ก็ได้กล่าวชื่นชมนักกีฬาไทย พร้อมขอให้ได้เหรียญทองในการชิงชัยเช่นกัน