วันที่ 31 ก.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ นายชัยวุฒิ คุณาธิมาพันธ์ ปลัดอำเภอกุยบุรี เป็นผู้แทนนายอำเภอกุยบุรี นำเจ้าหน้าที่ อส.ลงพื้นที่ร่วมกับ นายมารุต ตั้งบูรพาจิตร กำนันตำบลกุยเหนือ นายอิ้น หนวดพราหม นายก อบต.กุยเหนือ นายณรงค์ สาหร่าย ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านโพเรียง นายอนุวัฒน์ เพชรอยู่ อบต.หมู่บ้านโพเรียง ลงพื้นที่ตรวจสอบรายละเอียด เพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการสร้างบ้านสบายเพื่อยายตา ซึ่งเป็นเงินงบประมาณช่วยเหลือการซ่อมแซมปรับปรุงบ้านจากการเคหะแห่งชาติ หลังจากทาง อบต.เป็นผู้รับดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน แล้วถูกผู้ใหญ่บ้านร้องเรียนว่าการก่อสร้างไม่ตรงปก จึงขอให้ทางอำเภอมาดำเนินการตรวจสอบแสวงหาข้อเท็จจริง เนื่องจากทาง อบต.ต้องการให้ผู้ใหญ่บ้านเซ็นต์รับมอบ ทางผู้ใหญ่บ้านจึงได้มีการตรวจสอบรายละเอียดของการก่อสร้างเบื้องต้นพบว่าบ้านของนายสุโข เขียวหวาน อายุ 71 ปี บ้านเลขที่ 5/2 หมู่ 3 ตำบลกุยเหนือ อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สร้างไม่สมราคากับวงเงิน จำนวน 80,445 บาท ที่เตรียมจะเบิกกับการเคหะแห่งชาติ ทางผู้ใหญ่บ้านจึงยังไม่ได้มีการเซ็นรับมอบบ้านแต่อย่างใด

จากการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายณรงค์ สาหร่าย ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านโพธิ์เรียง ได้พาเดินสำรวจดูวัสดุอุปกรณ์ต่างๆของโครงสร้างและองค์ประกอบของบ้านที่ทาง อบต.ปรับปรุงเสร็จแล้ว โดยมีทาง นายก อบต.และเจ้าหน้าที่ รวมถึงสมาชิก อบต. กำนัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอกุยบุรี และชาวบ้านร่วมสำรวจ โดยนายณรงค์ ผู้ใหญ่บ้านระบุว่า โครงสร้างบ้านในส่วนที่เป็นไม้และกระเบื้องแผ่นเรียบ ซึ่งใช้ทำเป็นผนังบ้านส่วนใหญ่เป็นของเดิมที่ทางหมู่บ้านได้ร่วมกันช่วยปรับปรุงให้ก่อนหน้านี้อยู่แล้ว แต่ทาง อบต.มาปรับปรุงเปลี่ยนใหม่ให้แค่บางส่วน เปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาใหม่ทั้งหมด เปลี่ยนใส่หน้าต่างใหม่ และในส่วนห้องน้ำมีเปลี่ยนแค่ฝักบัว กับราวมือจับหรือราวแขวนผ้าเท่านั้น แต่ในเอกสารที่ระบุปรับปรุงห้องน้ำในส่วนเฉพาะอุปกรณ์ จำนวน 5,230 บาท และในส่วนการปรับปรุงโครงสร้างห้องน้ำ(บางส่วน) ระบุยอดจำนวนวงเงิน 15,700 บาท ซึ่งเมื่อมองภาพรวมแล้ว วงเงินจำนวนกว่า 8 หมื่นบาทควรสร้างบ้านได้ดีมากกว่านี้ นายณรงค์ ผู้ใหญ่บ้าน กล่าว

 

 

 

ด้าน นายอิ้น หนวดพราหม นายก อบต.กุยเหนือ ชี้แจงว่า โครงการซ่อมแซมปรับปรุงบ้าน ตามโครงการสร้างบ้านสบายเพื่อยายตา ที่ อบต.รับมาดำเนินการจากการเคหะแห่งชาติ ได้ทำตามแบบที่การเคหะได้กำหนดไว้ ซึ่งทีมการเคหะได้ลงพื้นที่มาสำรวจบ้านหลังดังกล่าวก่อนเริ่มสร้างด้วยตนเอง จากนั้นจึงได้ให้ทาง อบต.รับมาดำเนินการหาผู้รับเหมามาซ่อมแซมบ้าน โดยใช้เครดิตของผู้รับเหมาเชื่อวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการปรับปรุงบ้านไว้กับทางร้าน หลังจากงานเสร็จแล้วจึงจะส่งยอดเงินไปเบิกกับทางการเคหะแห่งชาติ โดยทางเคหะแห่งชาติจะโอนเงินค่าก่อสร้างทั้งหมดผ่านบัญชีผู้สูงอายุของเจ้าของบ้าน จากนั้นให้ทาง อบต. พาไปเบิกเงินกับธนาคารแล้วเอามาจ่ายให้กับเจ้าของร้านวัสดุก่อสร้าง โดยค่าวัสดุก่อสร้างทั้งหมดที่ร้านแจ้งยอดไว้ จำนวน 41,430 บาท ส่วนที่เหลือกว่า 30,000 บาท เป็นค่าแรงช่าง รวมยอดเงินทั้งสิ้น 80,455 บาท ซึ่งทาง อบต.ถือว่าไม่ได้ทำผิดเงื่อนไข และทำตามที่ทางเคหะแห่งชาติกำหนดไว้