เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 20 กรกฎาคม 2567 ที่ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร. วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา เนื่องในวันอาสาฬหบูชา ประจำปี พ.ศ. 2567 โดยได้รับเมตตาจาก เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร นำพระภิกษุสงฆ์ สามเณร เดินบิณฑบาต

โดยมี นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านกิจการความมั่นคงภายใน นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง นายราชันย์ ซุ้นหั้ว รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายวัชรเดช เกียรติชานน รองหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายอังกูร ศีลาเทวกุล นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายสุเมธ มีนาภา รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายวสันต์ สุภาภา รองอธิบดีกรมที่ดิน นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง นางสาวชัชดาพร บุญพีระณัช รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นางชุลีพร เตรัตน์ นางนงลักษณ์ ซุ้นหั้ว อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย และประธานชมรมแม่บ้านกรมการปกครอง ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ภาคีเครือข่ายของกระทรวงมหาดไทย และพุทธศาสนิกชน ร่วมในพิธี

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันอาสาฬหบูชา หรือวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 เป็นวันคล้ายวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา คือ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร โปรดพระปัญจวัคคีย์ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมือง พาราณสี ในปีแรกที่ทรงตรัสรู้ และด้วยผลของพระธรรมเทศนากัณฑ์นี้ เกิดอัศจรรย์เหตุให้ท่าน พระอัญญาโกณฑัญญะ 1 ในจำนวนพระปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ได้ธรรมจักษุ ดวงตาเห็นธรรม คือ ปัญญา รู้เห็นความจริงว่า สิ่งใดก็ตามมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งปวงล้วนมีความดับไป เป็นธรรมดา แล้วขอบรรพชาอุปสมบทต่อพระองค์ เป็นพระอริยสงฆ์องค์แรกของ พระพุทธศาสนา และทำให้พระรัตนตรัยครบองค์ 3 คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

“พวกเราผู้เป็นพุทธศาสนิกชน พึงสืบทอดพระพุทธศาสนาไว้ให้ยั่งยืน ด้วยการ “ศึกษา” และ “ปฏิบัติ” ตามพระธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ด้วยความมั่นคงแน่วแน่และตั้งมั่นให้เข้าถึงการปฏิบัติธรรมอย่างถูกต้อง ประคับประคองจิตใจให้มีใจรุกรบในการปฏิบัติบำเพ็ญสิ่งที่ดีงาม พร้อมกระทำคุณประโยชน์นานาประการ ด้วยการเป็นผู้นำบูรณาการภาคีเครือข่ายร่วมแรงแข็งขัน นำพาความงอกงามตามวิถีไทยวิถีพุทธ คือ ความเกื้อกูล เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แบ่งปันให้กลับคืนมาสู่สังคมไทย ร่วมนำพาสังคมให้สามารถก้าวพ้นจากทุกข์ภัย นำมาซึ่งสันติสุขร่วมกัน โดยมีเป้าหมายที่สำคัญ คือการทำให้พี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ชุมชน/หมู่บ้าน ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ทำให้ทุกหมู่บ้านเป็น “หมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village)” อันจะนำมาซึ่งความสุขที่ยั่งยืนของคนไทยทุกคน” นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม