รมต.ห่วงใยประชาชนผู้บริโภค สั่งเสธหิ ที่ปรึกษา รมว.พลังงาน ตรวจสอบเคสปั้มเติมน้ำมันผสมน้ำ
2 พ.ค. 2567, 18:24
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานความคืบหน้ากรณี นางสมนึก สิทธิการณา พลังงานจังหวัดกาญจนบุรี เข้าพบ ร้อยตำรวจโททัศเทพ เพร็ชศรี รอง สว. (สอบสวน) สภ.หนองปรือ เพื่อแจ้งความร้องทุกกล่าวโทษให้ดำเนินคดี น.ส. รวีวรรณ (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งตั้งอยู่ท้องที่ ตำบลสมเด็จเจริญ อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี ในข้อกล่าวหา กระทำผิดตาม พรบ. การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2543 มาตรา 25 วรรค 3 และมาตรา 50 ซึ่งมีโทษตามมาตรา 48 และ 49
ขณะที่นายสิทธิพร (ขอสงวนนามสกุล)น้องชาย ให้การว่าน้ำมันดีเซล B7 ที่บีบออกจากหัวจ่ายเพื่อให้กับลูกค้าเมื่อวันที่ 22 เม.ย.เป็นน้ำมันที่มีน้ำเจือปนอยู่จริงตามคลิปที่ผู้เสียหายในไปโพสต์ลงในเฟสบุ๊ก โดยมี น.ส.ยุพิน เกตุคงแก้ว เป็นผู้บีบตัวอย่างลงในแกลลอน ทางปั๊มเองไม่ทราบว่าสาเหตุที่มีน้ำเจือปนในน้ำมันเกิดจากสาเหตุใด ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดวันนี้ 2 พ.ค.67 ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือเสธหิ โดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้มอบหมายให้ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือเสธหิ ที่ปรึกษา เดินทางลงมาตรวจสอบและติดตามความคืบหน้ากรณีข้างต้น โดยมีนางนิภา ศรแก้ว ผู้อำนวยการกองคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง นายอัครเดช ศุกระกาญจน์ ผู้อำนวยการกองกฏหมาย กรมธุรกิจพลังงาน และนางสมนึก สิทธิการณา พลังงานจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกับ พลตำรวจตรี กำธร อุ่ยเจริญ ผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 (ผบก.ศพฐ.7) พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7
พันตำรวจเอก สรวิชญ์ บัวกลิ่น ผกก.สภ.หนองปรือ พันเอก ทวี ดอนวิจิตร หัวหน้ากลุ่มงานประสานความมั่นคงฯ กอ.รมน.จังหวัดกาญจนบุรี ให้การต้องรับ และร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงที่พบว่ามีน้ำปนในน้ำมันดีเซลบี 7 ที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่รถยนต์ของประชาชน และกำชับให้สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงตรวจสอบและดูแลเรื่องคุณภาพรวมถึงปริมาตรน้ำมันให้เป็นไปตามกฎหมายเพื่อให้ประชาชนไม่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมกันนี้กองคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงได้เก็บตัวอย่างน้ำมันเพื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยมีนายนายสิทธิพร (ขอสงวนนามสกุล)น้องชายเจ้าของปั๊มนำพาตรวจสอบ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็แล้วเสร็จ
ทั้งนี้ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือเสธหิ เปิดเผยภายหลังว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวพันที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง เนื่องจากประชาชนได้จ่ายเงินค่าน้ำมันมาหมดแล้วประชาชนก็ต้องอยากได้น้ำมันที่มีคุณภาพและปริมาณที่ครบถ้วนตามจำนวนเงินที่จ่ายไป หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจึงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานราชการที่จะต้องลงมาตรวจสอบเรื่องเหล่านี้ ซึ่งขณะนี้ท่านรัฐมนตรีท่านทำงานอยู่หลายอย่าง เช่นในระดับนโยบายท่านทำในเรื่องการปรับโครงสร้างต่างๆเพื่อให้ได้รับน้ำมันที่มีความเป็นธรรม แต่ขณะเดียวกันเมื่อมาถึงระดับของประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงก็ต้องการให้ประชาชนได้รับสินค้าที่ตรงตามคุณภาพและปริมาณของน้ำมันตามที่ได้ระบุไว้ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังก็อยากให้มีการตื่นตัว โดยพลังงานจังหวัดทุกจังหวัดจะต้องมีนโยบายแนวทางการตรวจสอบให้ให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
แต่อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้นต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนและประชาชนที่ร้องเรียนเพราะถือว่าช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับทางราชการ ซึ่งทางราชการก็ต้องรีบเข้าไปแก้ไข ต้องฝากไปยังพลังงานจังหวัดทุกจังหวัดว่าต่อไปว่าเมื่อได้รับเรื่องร้องเรียนแล้วจะมีวิธีการอย่างไรในการที่จะดำเนินการให้ผู้ร้องได้รับความพึงพอใจ และจะมีวิธีการอย่างไรเพื่อที่จะหาความจริงมาตอบประชาชนให้ได้
โดยการเดินทางมาในครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่หน่วยตรวจสอบคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง กรมธุรกิจพลังงาน เจ้าหน้าที่พลังงานจังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้งผู้กำกับ สภ.หนองปรือ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภาค 7 และเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมลงพื้นที่มาตรวจสอบ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันเป็นอย่างดี การให้ความร่วมมือของเพื่อประกอบการก็เพื่อที่จะร่วมกันหาทางออกเพื่อหาคำตอบให้กับประชาชนให้ได้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมันเป็นการเจตนาหรือไม่เจตนา เพราะหากมีการพลั้งเผลอหรือบกพร่องตรงไหนผู้ประกอบการเองจะต้องไปทำการแก้ไข ในส่วนของคดีก็ให้ว่ากันไปตามกฎหมาย โดยพลังงานจังหวัดมีหน้าที่แจ้งความดำเนินคดีส่วนพนักงานสอบสวนมีหน้าที่สอบสวนเพื่อหาความจริงเพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรม
ถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะต้องถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตของผู้ประกอบการหรือไม่นั้น เรื่องนี้ก็ให้ว่ากันไปตามข้อกฎหมายเบื้องต้นผมยังไม่ทราบว่าข้อกฎหมายเป็นอย่างไร ซึ่งตรงนี้ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนรวมทั้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ทำการตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดให้ครบถ้วยเสียก่อนว่าจะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนเกี่ยวกับความหนักเบาของพฤติกรรมซึ่งในข้อกฎหมายมีอยู่แล้ว ซึ่งต่อไปลักษณะของการที่จะเพิ่มโทษอะไรต่างๆทางผู้ผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้วินิจฉัยร่วมกัน แต่ขณะนี้ข้อกฎหมายที่มีอยู่จะต้องบังคับใช้ให้มีความยุติธรรมกับประชาชนและต้องให้ความยุติธรรมกับผู้ประกอบการด้วยว่าเขามีเจตนาอย่างไร ซึ่งต้องฝากไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงต่อไป
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ฝากไปถึงพลังงานจังหวัดทุกจังหวัดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ขอให้เป็นอุทาหรณ์และให้พลังงานจังหวัดได้มีแนวทางในการตรวจสอบคุณภาพ รวมทั้งตรวจสอบว่าประชาชนที่มาใช้บริการตามปั๊มน้ำมันได้น้ำมันที่มีคุณภาพหรือไม่ หัวจ่ายน้ำมันมีการบีบน้ำมันให้กับประชาชนครบจำนวนเงินที่เติมไปหรือไม่ อย่างไร พลังงานจังหวัดจะต้องมีการตรวจสอบเพื่อให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากว่าเมื่อประชาชนจ่ายเงินไปแล้วก็ต้องการสิ่งที่คุ้มค่า
ในส่วนนโยบายขณะนี้ท่านรัฐมนตรีฯกำลังดำเนินการแก้ไข เช่นตอนนี้ได้มีการแจ้งต้นทุนน้ำมัน เพื่อเวลาที่รัฐบาลขอความร่วมมือหรือควบคุมราคาน้ำมันต่างๆจะได้ทราบต้นทุนราคาน้ำมันที่แท้จริง ที่ผ่านมายังไม่เคยมีการแจ้งต้นทุนราคาน้ำมันมาก่อนเลย ทำให้เราไม่สามารถทราบราคาต้นทุนน้ำมันที่แท้จริงได้ ต่อไปเมื่อรัฐบาลสามารถทราบราคาต้นทุนที่แท้จริงได้ ก็จะทำให้รัฐบาลสามารถดูแลประชาชนได้ดีและมีความเป็นธรรมมากขึ้น