เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดป่าไร่พรหมมาราม บ้านป่าไร่ หมู่ 8 ต.พรหมสวัสดิ์ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ พระสหภาพ จิตตธัมโม รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าไร่พรหมมาราม พร้อมด้วย นายไกรสร ตะอุดม อายุ 40 ปี ไวยาวัจกร และชาวบ้านป่าไร่ ได้พากันเดินสำรวจดูเจดีย์ที่บรรจุอัฐิคนตาย บริเวณริมรั้วของวัดซึ่งตั้งเรียงแถวเป็นแนวยาว ทั้งนี้เนื่องจากว่าได้มีคนร้ายเข้ามาทุบเจดีย์ของคนตาย แล้วนำเอาโกศทองเหลืองที่บรรจุกระดูกของคนตายลงมาเททิ้งลงกับพื้น และได้นำเอาของมีค่าต่างๆ เช่น เงิน ผ้าไหม ที่บรรจุอยู่ในเจดีย์ออกไป ซึ่งจากการสำรวจพบว่า มีเจดีย์โดนทุบเจาะเอาของมีค่าไป จำนวนทั้งสิ้น 23 เจดีย์ โดยเจดีย์บางแห่งยังมีเศษกระดูกที่วางกองอยู่กับพื้น ใกล้กันมีโกศทองเหลืองวางอยู่ ขณะที่เจดีย์หลายแห่งบรรดาญาติของคนตายได้ทำการนำเอาโกศทองเหลืองมาใส่กระดูกที่กองเกลื่อนพื้น และนำเอาเข้าไปไว้ในเจดีย์ จากนั้นทำการนำเอาปูนซีเมนต์มาปิดเจดีย์เอาไว้เช่นเดิม นอกจากนี้แล้วเจดีย์หลายแห่งมีรอยเจาะ แต่ว่าไม่ได้นำเอาโกศทองเหลืองออกมา เพียงแค่ลักเอาสิ่งของมีค่าไปเท่านั้น ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับบรรดาญาติพี่น้องของคนตายที่ได้นำเอาอัฐิมาบรรจุไว้ในเจดีย์ที่วัดแห่งนี้เป็นอย่างมาก เพราะถือว่าเป็นการรบกวนบรรพบุรุษของพวกตน

พระสหภาพ จิตตธัมโม รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าไร่พรหมมาราม กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางคืนของวันที่ 23 เม.ย.67 ซึ่งเป็นคืนวันพระ และเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง ได้มีคนร้ายลักลอบเข้ามาภายในบริเวณวัด จากนั้นอาศัยแสงจันทร์ทำการทุบเจดีย์ นำเอาโกศทองเหลืองบรรจุกระดูกของคนตายออกมาเทลงเกลื่อนพื้น ซึ่งขณะที่โจรเข้ามามีเสียงหมาเห่าต่อเนื่อง พอรุ่งเช้าชาวบ้านได้พากันมาทำบุญตักบาตร และพบว่าเจดีย์ที่บรรจุอัฐิบรรพบุรุษของตนถูกคนร้ายทุบเจดีย์ไปจำนวนทั้งสิ้น 23 แห่ง ซึ่งสร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับชาวบ้านที่นำเอาอัฐิของบรรพบุรุษมาไว้ที่วัดแห่งนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งจากการตรวจสอบดูแล้ว อาตมาภาพเห็นว่าคนร้ายจะนำเอาโกศทองเหลืองออกมาเทเอากระดูกออกมา จากนั้นจะหาเงินและของมีค่าต่างๆ ที่อยู่ภายในเจดีย์และโกศทองเหลือง โดยที่คนร้ายไม่ได้นำเอาโกศทองเหลืองเพื่อไปขายแต่อย่างใด คาดว่าเป็นการกระทำของพวกติดยาเสพติดมาทำการทุบเจดีย์เพื่อหาเงินและของมีค่าไปขายซื้อยาเสพติดมาเสพ อาตมาภาพเชื่อว่าพวกโจรที่มางัดเจดีย์ไม่ใช่พวกที่จะมานำเอากระดูกหรือเงินปากผีของคนตายไปทำไสยาศาสตร์ อีกทั้งภายในวัดแห่งนี้ไม่มีกระดูกของผีตายโหงแต่อย่างใด หากจะทำไสยาศาสตร์จะต้องนำเอากระดูกของคนตายไปด้วย

พระสหภาพ จิตตธัมโม กล่าวต่อไปว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้อาตมาภาพรู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างยิ่งที่บรรพบุรุษของชาวบ้านต้องมาโดนรบกวนจากพวกโจรที่เข้ามาทุบเจดีย์หาเงินที่อยู่ในเจดีย์ภายในวัด อาตมาภาพเห็นว่าหากจะเข้ามาทุบเจดีย์หาเงินเพื่อไปเสพยาแบบนี้ ควรที่จะไปหางานทำเพื่อให้ได้เงินยังจะดีกว่า เพราะว่าจะได้ไม่ทำให้ชาวบ้านป่าไร่ที่นำอัฐิของบรรพบุรุษมาไว้ที่วัดแห่งนี้ต้องได้รับความสะเทือนใจ เพราะอัฐิของบรรพบุรุษต้องโดนรบกวนและโดนนำเอาอัฐิมาทิ้งกระจายเกลื่อนแบบนี้  ซึ่งช่วงเช้าของวันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.พยุห์ มาตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขอฝากเตือนวัดทุกวัดและประชาชนทุกหมู่บ้านให้ช่วยกันระวังโจรพวกนี้เนื่องจากวัดหลายหมู่บ้านโดนทุบเจดีย์ลักเงินผีจากเจดีย์ไปแล้วจำนวนมาก

นายไกรสร ตะอุดม อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108 หมู่ 8 บ้านป่าไร่ ต.พรหมสวัสดิ์ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นไวยาวัจกรของวัดป่าไร่พรหมมาราม กล่าวว่า จากการที่ตนได้ตรวจสอบดูแล้วโจรพวกนี้ไม่ได้มุ่งหวังที่ต้องการนำเอาสิ่งของต่างๆ ภายในเจดีย์ของคนตายไปทำไสยาศาสตร์ เนื่องจากว่าการที่จะทำไสยาศาสตร์นั้นจะต้องนำเอากระดูกของคนตายที่อยู่ในโกศไปด้วย คนร้ายต้องเป็นพวกติดยาที่มาทุบเจดีย์เพื่อหาเงินที่บรรดาญาติพี่น้องของคนตายนำเอาเงินมาใส่ในโกศทองเหลืองที่บรรจุอัฐิบรรพบุรุษของตนเอง และเจดีย์บางแห่งก็จะนำเอาผ้าถุงซึ่งเป็นผ้าไหมมาห่อโกศทองเหลืองเอาไว้ด้วย ซึ่งเงินและผ้าไหมจะเป็นของมีค่า คนร้ายจะไม่สนใจโกศทองเหลืองที่บรรจุกระดูกของคนตาย เนื่องจากว่าหากนำเอาทองเหลืองไปขาย จะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามสืบรู้ว่าใครเอาโกศทองเหลืองไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่า  ในจำนวนเจดีย์ทั้ง 23 แห่งที่โดนทุบนี้ มีญาติของตนรวมอยู่ด้วย ทำให้ตนรู้สึกเศร้าเสียใจมากที่อัฐิของบรรพบุรุษโดนรบกวน ตนขอฝากไปถึงคนร้ายที่เข้ามาทุบเจดีย์ภายในวัดแห่งนี้ว่า ควรที่จะไปหางานทำเพื่อให้ได้เงินมาใช้จ่าย จะดีกว่ามาตระเวนทุบเจดีย์เพื่อหาเงินผีไปใช้ ซึ่งไม่เป็นมงคลสำหรับตนเองและครอบครัวแต่อย่างใด ตนเชื่อว่าคนร้ายที่เข้ามาทุบเจดีย์นี้ไม่ใช่เป็นคนในหมู่บ้านป่าไร่ เพราะว่าหากเป็นคนในหมู่บ้านจะต้องไม่กล้าเข้ามารบกวนวิญญาณบรรพบุรุษของตนเองและญาติของตนเองที่นำเอากระดูกมาไว้ที่วัดแห่งนี้ คาดว่าเป็นโจรที่มาจากหมู่บ้านอื่นมาตระเวนทุบเจดีย์ โดยก่อนหน้านี้ก็มีวัดหลายแห่งโดนทุบเจดีย์เพื่อลักเอาเงินและทรัพย์สินของมีค่าในเจดีย์ไปแล้วจำนวนมาก