วันที่ 9 เมษายน เจ้าหน้าที่ทีมงานจับสัตว์เลื้อยคลานสะบุรี   ได้รับแจ้งจาก นายอรรถพงษ์ ศรีคณาเศษ อายุ59ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 37/9 หมู่7 ต.ตลิ่งชัน อ เมือง จ.สระบุรี  ว่า พบงูเหลือมขนาดใหญ่ลำตัวติดตะข่าย ที่ตนเองกั้นไว้รอบบ้าน  อยากให้รีบมาช่วยงูเหลือมตัวดังกล่าวด้วย เนื่องจากถูกตะข่ายรัดแน่นจนบาดเจ็บ กลัวว่างูจะตาย 
ไม่ถึง30นาที เจ้าหน้าที่ก็เดินทางมาถึง พร้อมทั้งตรวจสอบ พบว่างูเหลือมขนาดใหญ่ตัวดังกล่าว ถูกตะข่ายซึ่งเป็นเชือกไนล่อน รัดจนแน่นนอนได้รับบาดเจ็บอยู่ข้างเล้าไก่ร้าง ติดกับบ่อน้ำ ภายในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้นำกรรไกร พยายามตัดเชือกตาข่ายที่รัดตัวงูเหลือที่ได้รับบาดเจ็บอย่างละมัดระระวัง  โดยจากการตรวจสอบบาดแผล คาดว่าระหว่างที่งูเหลือม ถูกตะข่ายรัด คงจะพยายามดิ้นรนหนี ทำให้ตะข่ายรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ  เนื่องจากเชือกดังกล่าว บาดลึกเข้าเนื้องูดังกล่าวเป็นบาดแผลลึก  เจ้าหน้าที่ใช้เวลาตัดเชือกตะข่ายช่วยเหลืองูเหลือมยักษ์ ประมาณ 10นาที ก็สามารถนำตัวงูออกมาจากตะข่ายที่รัดแน่นได้สำเร็จ  พร้อมทั้งนำ งูเหลือมตัวดังกล่าว ออกมายังบริเวณที่ปลอดภัย 
เพื่อดูอาการ และบาดแผลที่ถูกเชือกตาข่ายบาด ซึ่งงูเหลือตัวดังกล่าว มีความยาวประมาณ เกือบ4เมตร น้ำหนัก ประมาณ15- 20กิโลกรัม  คาดว่า งูที่แอบเลื้อยเข้ามาในบริเวณบ้านหลังดังกล่าว เนื่องจาก  อากาศร้อน และหิว เพราะบ้านหลังนี้ มีบ่อน้ำ ขนาดใหญ่ สัตว์เลื้อยคลานโดยเฉพาะ ประเภท งูเหลือม โดยธรรมติจะชอบ บริเวณที่มีความชื้นและพื้นที่เย็น ประกอบกับออกหาอาหารด้วย  แต่เจ้าของบ้านนำตาข่ายมาปิดกั้น ดักไว้โดยรอบบ้านจึงทำให้งูเหลือมเคราะร้ายติดตะข่ายจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว 
นายอรรถพงษ์ (เจ้าของบ้าน ) เผยว่า ปกติ บ้านตนเองจะมีสัตว์เลื้อยคลาย หลายประเภทเข้ามาภายในบริเวณบ้านตนเองบ่อยๆ แต่ครั้งนี้ เป็นงูเหลือมขนาดใหญ่ยาว เกือบ4เมตร ซึ่งที่ผ่านมา ตนเองนำตาข่าย มากั้น รอบบ้าน เพื่อดักสัตว์เลื้อยคลานไม่ให้เข้า มาในบ้าน เนื่องจาก ความปลอดภัย เพราะที่บ้านมีเด็กเล็กและผู้สูงอายุ อาศัยอยู่ ซึ่งก็เพื่อความปลอดภัย ไม้ให้สัตว์เลื้อยคลานโดยเฉพาะ อสรพิษหรืองูเหลือมเล็ดลอดเข้ามาในบริเวณตัวบ้านได้ประกอบกับบ้านตนเองปกคลุมด้วยไม้เล็กใหญ่และมีบ่อน้ำทำให้ สัตว์เลื้อยคลานหรืองูทั้งเล็กทั้งใหญ่ มีพิษและไม่มีพิษชอบเข้ามา ทำให้ตนเองต้องกั้นตาข่าย ไว้รอบบ้าน เพื่อความปลอดภัยลูกหลานและผู้สูงอายุที่อยู่ในบ้าน ส่วนงูเหลือมตัวนี้เป็นตัวแรกที่ ตนเองพบว่ามีขนาดใหญ่และบาดเจ็บ จึงขอความช่วยเหลือจากกู้ภัยมาช่วยจับซึ่งตนเองไม่คิดทำร้าย   เพื่อนำไปปล่อยคืนสู่ที่ปลอดภัยตามแหล่งธรรมชาติต่อไป//