ครม.เห็นชอบปฏิญญาเสริมสร้างความเข้มแข็งรับมือภัยคุกคามยาเสพติดสังเคราะห์ระดับโลก
12 มี.ค. 2567, 16:01
วันนี้ ( 12 มี.ค.67 ) นางสาวเกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (12 มีนาคม 2567) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบในสารัตถะของปฏิญญาว่าด้วยการเร่งรัดและเสริมสร้างความเข้มแข็งในการรับมือระดับโลกต่อภัยคุกคามยาเสพติดสังเคราะห์1 (Ministerial Declaration on Accelerating and Strengthening the Global Response to Synthetic Drugs) (ปฏิญญาฯ) และให้ความเห็นชอบให้ประเทศไทย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมรับรองปฏิญญาดังกล่าว
2. เห็นชอบต่อการเข้าร่วมเป็นสมาชิกแนวร่วมในการรับมือภัยคุกคามจากยาเสพติดสังเคราะห์ระดับโลก (Global Coalition to Address Synthetic Drug Threats) (แนวร่วมฯ) ของ ยธ. ในนามของประเทศไทย โดยมีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) เป็นหน่วยดำเนินการ
3. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) แจ้งผลการพิจารร่วมรับรองปฏิญญาฯ และการเข้าร่วมเป็นสมาชิกแนวร่วมฯ ของประเทศไทยต่อกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา
[การประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติดแห่งสหประชาชาติ (Commission on Narcotic Drugs: CND) สมัยที่ 67 มีกำหนดจัดขึ้น ณ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย ระหว่างวันที่ 14 - 22 มีนาคม 2567 โดยจะมีการหารือในประเด็นที่เกี่ยวกับการเข้าร่วมเป็นสมาชิกแนวร่วมฯ ในระหว่างวันที่ 14 - 15 มีนาคม 2567]
สาระสำคัญ
1. กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีเพื่อเปิดตัวแนวร่วมในการรับมือภัยคุกคามจากยาเสพติดสังเคราะห์ (Global Coalition to Address Synthetic Drug Threats) รวมถึงพิจารณารับรองปฏิญญาฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 7 กรกฎาคม 2566 ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยปฏิญญาฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
ยธ. แจ้งว่า วัตถุประสงค์ของปฏิญญาฯ และการจัดตั้งแนวร่วมฯ ไม่ขัดต่ออำนาจหน้าที่ของ ยธ. (สำนักงาน ป.ป.ส.) ตามมาตรา 12 (7) ของประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งบัญญัติให้ประสานความร่วมมือกับต่างประเทศและองค์การระหว่างประเทศในด้านการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยถือเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศในระดับนโยบายที่สำคัญและเท่าทันเหมาะสมต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลซึ่งกำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระเร่งด่วน มุ่งเน้นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นำความปลอดภัยมาสู่ประชาชนและดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดสิ้นจากสังคมไทยภายใต้แนวคิด “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” ขณะที่ผู้ผลิตและผู้ค้ายาเสพติดต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรมที่มุ่งเน้นการใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมายอย่างจริงจัง รวมทั้งสอดคล้องกับการขับเคลื่อนนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด (พ.ศ. 2566 - 2570) ซึ่งกำหนดให้มีการยกระดับและรักษาบทบาทสำคัญของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ การรับรองปฏิญญาฯ และการเข้าเป็นสมาชิกแนวร่วมฯ จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินความร่วมมือระหว่างประเทศระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกาในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือระหว่างสำนักงาน ป.ป.ส. กับสำนักงานปราบปรามยาเสพติด (Drug Enforcement Administration: DEA) กระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา