ตำรวจ สภ.ปรือใหญ่ จับลูกเขยยิงแม่ยายดับคาที่ เผยปมแค้นโดนดูถูกว่าจน
3 มี.ค. 2567, 11:47
เมื่อเวลา 12.20 น.วันที่ 2 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นี่คือภาพเหตุการณ์ที่ พ.ต.อ.ชัชวาลย์ โตโสภณ ผกก.สภ.ปรือใหญ่ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชัชพงศ์ โสดา รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.ศาสตรา คำขาว สว.สส.ฯ พ.ต.ท.ไพโรจน์ คันนา สวป.ร.ต.อ.พุธศักดิ์ สุริยะ รอง สวป.สภ.ปรือใหญ่ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าไปทำการจับกุม นายนิคม หรือคม อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 236 หมู่ 13 บ้านนาจะเรีย ต.ปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ โดยจับกุมได้ที่บริเวณสวนปาล์ม ทิศตะวันออกเฉียงใต้ บ้านลุมพุก (บริเวณใต้สันเขื่อนโอตาลัด)หมู่ 2 ต.โคกตาล อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ และกระสุนในรังเพลิง 1 นัด หลังจากที่นายนิคมได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ ยิงนางวันดี เป้งทอง อายุ 64 ปี เสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 299 หมู่ 13 บ้านนาจะเรีย เหตุเกิดเมื่อเวลา 17.00 น.ของวันที่ 1 มี.ค.67 ที่ผ่านมา จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายคมไปทำการสอบสวนที่ สภ.ปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายนิคม หรือคม ผู้ต้องหาฆ่าโหดแม่ยายตนเอง ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุตนบวชเป็นพระอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในเขต ต.ปรือใหญ่ ต่อมา ได้รู้จักกับนางตู่ ซึ่งเป็นลูกสาวของนางวันดี ได้เกิดชอบพอกัน โดยนางตู่ให้ตนสึกออกมา เพื่อมาอยู่กินกันฉันสามีภรรยากัน ตนจึงได้สึกออกมาเมื่อวันออกพรรษาที่ผ่านมา ต่อมา นางวันดีมักจะไปพูดดูถูกตนว่าไม่ยอมรับตนเป็นลูกเขย เพราะว่าเป็นคนจน ไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน และได้กีดกันไม่ให้ตนคบกับนางตู่ ทำให้ตนมีความแค้นนางวันดีแม่ยายของตนเองเป็นอย่างมาก วันเกิดเหตุตนได้ดื่มเหล้าย้อมใจ จากนั้นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาที่บ้านของนางวันดี ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน เห็นนางวันดียืนอยู่หน้าบ้าน ตนได้ลงจากรถจักรยานยนต์ เดินเข้าไปใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิงนางวันดี กระสุนถูกที่บริเวณลำคอและหน้าอก จำนวน 1 นัด จากนั้นตนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป และได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่บริเวณใต้เขื่อนโอตาลัด จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ ตนยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา แต่ว่าจะไม่ยอมไปขอขมาศพของนางวันดีอย่างเด็ดขาด
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 299/13 บ้านนาจะเรีย ต.ปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านที่เกิดเหตุ พบว่า บรรดาญาติพี่น้องกำลังช่วยกันกางเต็นท์จัดเตรียมสถานที่และจัดเตรียมรอบบริเวณบ้าน เพื่อเตรียมรับศพของนางวันดี ซึ่งขณะนี้ศพของนางวันดียังอยู่ที่ รพ.ศรีสะเกษ โดยบริเวณที่เกิดเหตุ ได้มีการนำเอาดินมาถมรอยเลือดและมีกองขี้เถ้า ซึ่งญาติแจ้งว่าเป็นการประกอบพิธีเรียกวิญญาณของนางวันดีให้เข้าบ้าน และเพื่อบอกกล่าวขอให้วิญญาณของนางวันดีช่วยดลบันดาลให้ตำรวจจับกุมมือปืนโหดรายนี้ให้ได้โดยเร็ว
นางทองใบ ศรีสะอาด อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 293 หมู่ 13 บ้านนาจะเรีย ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนางวันดีได้ไปนั่งเล่นอยู่กับตน จากนั้นนางวันดีได้เดินกลับมาที่บ้าน ต่อมาตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ซึ่งตนไม่ทราบว่าเขายิงอะไรกัน ต่อมา ได้เดินมาที่บ้านนางวันดีและพบว่านางวันดีถูกยิงนอนฟุบอยู่กับพื้นหน้าบ้าน ตนจึงได้แจ้งให้ญาติพี่น้องได้ทราบเพื่อให้มาช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่านางวันดีได้เสียชีวิตคาที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่พยาบาลได้เข้ามาพยายามปั๊มหัวใจ แต่ว่านางวันดีเสียชีวิตแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ตนไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่านายนิคมจะใช้ความรุนแรงยิงนางวันดี ซึ่งเป็นแม่ยายของตนเองจนเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง และพาอาวุธปืนไปในทางหมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้น ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.ปรือใหญ่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป