"แก๊งกะเทย" อาละวาดหนัก! ปลดทรัพย์นทท.ชาวอินเดีย มูลค่ากว่า 30,000 บาท
13 มิ.ย. 2562, 11:30
ผู้สื่อข่าว ONBnews รายงานว่า ( 12 มิ.ย. 62 )พ.ต.อ.พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ รรท.ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ กู้พิมายวรกูล รอง รรท.รอง ผกก.สส. ร.ต.อ.ณธกร จันทร์ลอด รอง สว.สส. พร้อมด้วยกำลังตำรวจท่องเที่ยว นำโดย พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวพัทยา ร่วมกันจับกุมแก๊งสาวประเภทสองล้วงกระเป๋า-ปลดสร้อยคอทองคำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ประกอบด้วย นายวิชัย หรือโรส เชื้อพระซอง อายุ 24 ปี นายวินัย หรือหวาน อินสว่าง อายุ 32 ปี และนายดรุณ หรือเบนซ์ สุคม อายุ 34 ปี ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ในฐานความผิด “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”
สืบเนื่องจาก กลางดึกของวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายเป็นสาวประเภทสองจำนวน 3 คน ทำทีเข้ามาชักชวนพูดคุยเสนอขายบริการทางเพศและเข้ามาโอบกอด ก่อนก่อเหตุล้วงกระเป๋าพร้อมกับปลดสร้อยคอทองคำของนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจำนวน 2 คน รวมมูลค่ากว่า 30,000 บาท ขณะที่ผู้เสียหายกำลังเดินเข้าห้องพักแห่งหนึ่ง บนเขาพระตำหนัก ย่านพัทยาใต้ หลังจากก่อเหตุคนร้ายได้พากันขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ต่อมาตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว ลงพื้นที่สอบปากคำพยานแวดล้อม โดยจากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดบริเวณเกิดเหตุ สามารถจับภาพขณะก่อเหตุไว้ได้อย่างชัดเจน ซึ่งคนร้ายเป็นกลุ่มสาวประเภทสองประจำถิ่น เขาพระตำหนัก พัทยาใต้ โดยทั้งหมดมีประวัติและเคยถูกจับกุมคดีลักทรัพย์มาแล้วหลายครั้ง ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับ
หลังจากศาลจังหวัดพัทยาอนุมัติหมายจับ ตำรวจจึงได้เดินทางไปจับกุมคนร้ายได้ที่ห้องพักแห่งหนึ่งในซอยวัดธรรมสามัคคี และซอยเศรษฐี ย่านพัทยาใต้
พ.ต.อ.พงศ์พันธ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้น คนร้ายทั้งหมด ให้การอ้างว่า หลังจากได้ทรัพย์สินได้นำสร้อยคอทองคำไปขายก่อนจะนำเงินมาแบ่งกัน แล้วแยกย้ายกันหลบหนีไป สำหรับการกระทำดังกล่าวถือเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามจะได้สั่งการตำรวจสายตรวจ และชุดสืบสวน เพิ่มมาตรการออกตรวจตามป้องกันจุดเสี่ยง โดยเฉพาะกลุ่มสาวประเภทสองและวัยรุ่นยืนเกาะกลุ่มแสดงพฤติกรรมต้องสงสัย นอกจากนั้นจากการตรวจสอบประวัติพบ 1 ในแก๊งค์เคยถูกจับพฤติกรรมเดียวกันและพึ่งพ้นโทษมา