หน.อุทยานฯลำคลองงู ส่งกองร้อยน้ำหวาน ปฏิบัติการเชิงรุกลุยเคาะประตูบ้านรณรงค์หยุดเผาป่า ดับไฟป่าในใจคน
10 ก.พ. 2567, 13:58
วันนี้ 10 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าว ON news รายงานว่า นายคุณากร บุญเกื้อสง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำคลองงู จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ช่วงฤดูแล้งระหว่างเดือน ม.ค.-พ.ค.ของทุกปี ประเทศไทย มักประสบปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ส่งผลให้เกิดฝุ่นควันที่มีค่า PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ และถือเป็นปัญหาวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมที่จำเป็นต้องแก้ไขเร่งด่วน
ปัญหาไฟป่าที่เกิดขึ้นต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องมือ และยานพาหนะในการเข้าไปดับไฟ ทำให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณเป็นจำนวนมาก ซึ่งสาเหตุเกิดจากฝีมือมนุษย์ที่ต้องการแค่เพื่อล่าสัตว์ การเก็บหาของป่า และการกำจัดวัชพืชในที่ดินทำกินของเกษตรกรที่อยู่ใกล้พื้นที่ป่า เพื่อเตรียมการเพาะปลูกโดยไม่มีการควบคุมส่งผลให้ไฟลุกลามเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติจึงกลายเป็นไฟป่า
สำหรับแนวทางในการป้องกันในเบื้องต้นนั้น อุทยานแห่งชาติลำคลองงูได้ส่งกองร้อยน้ำหวานออกปฏิบัติการในเชิงรุกด้วยการไปพบปะผู้นำชุมชน เช่นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อให้ร่วมกันรณรงค์ให้ชาวบ้านป้องกันไฟป่า งดเผา รวมทั้งแจ้งประกาศห้ามเข้าไปในพื้นที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู รวม 3 ตำบล ประกอบด้วยตำบลชะแล ตำบลท่าขนุน และตำบลสหกรณ์นิคม ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 – 31 พฤษภาคม 2567 ยกเว้นพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นเขตบริการ และเขตนันทนาการกลางแจ้ง
หากผู้ใดฝ่าฝืน มีความผิดตามมาตรา 47 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท ส่วนกรณีที่เผาป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 4 ปี ถึง 20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 400,000 บาท ถึง 2,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพบเห็นไฟไหม้ป่า ขอให้แจ้งหน่วยงานดับไฟป่าในพื้นที่ หรือโทรแจ้งสายด่วน 1362 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันเพจสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี ได้รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศของจังหวัดกาญจนบุรี ประจำวันที่ 10 ก.พ.โดยสถานีตรวจวัด ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ว่า “ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีค่า 45.1 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ”
แนะนำให้ เด็ก คนชรา สตรีมีครรภ์ และผู้ป่วยในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือดควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ถ้ามีอาการทางสุขภาพ เช่น ไอ หายใจลำบาก ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศรีษะ หัวใจเต้นไม่ปกติ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ควรปรึกษาแพทย์ ประชาชนทั่วไปควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น
สำหรับจุดความร้อน (Hotspot) ที่พบในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีในวันนี้มีมากถึง 164 จุด สำหรับจุดที่พบประกอบด้วย พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 96 จุด ป่าสงวน 35จุด เขต ส.ป.ก.8 จุด พื้นที่เกษตร 9 จุด และพื้นที่อื่นๆ 16 จุด เส้นทางการเคลื่อนที่ของฝุ่นละอองมาจากแหล่งกำเนิดทั้งภายในและภายนอกจังหวัด