กรณีคดีคนร้ายยิงนายเอกวัฒน์หรือน้อง วงละคร อายุ 31ปี และนายสาคร อักษรพาลี อายุ 47ปี เสียชีวิต 2 ศพคาขนำไม่มีเลขที่ ในสวนปาล์ม หมู่บ้านบางกระบือ ม.6 ต.ท่าไร่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พบศพเมื่อเย็น 21 ม.ค. 2567 และล่าสุดตำรวจนครศรีธรรมราชได้จับกุมตัวทีมฆ่าได้ครบ 3 คน ได้แก่ นายบุญนำ ญาติรัตน์ อายุ 66ปี ตำแหน่งรองนายก อบต.ท่าไร่ ในฐานะผู้ใช้จ้างวาน, นายทวีศักดิ์ จินพล อายุ 47 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.ท่าไร่ ในฐานะผู้ใช้จ้างวาน และจับนายวีระพงศ์หรือปาล์ม นวลมี อายุ 30 ปีทำหน้าที่เป็นมือยิง 

โดยทาง พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้แถลงสาเหตุเกิดจากความแค้นไม่พอใจที่ผู้ตายทั้งสองศพชอบลักเล็กขโมยน้อยสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ทำให้นายบุญนำและนายทวีศักดิ์ โกรธแค้นร่วมกันวางแผนจ้างนายวีระพงศ์หรือปาล์มจำนวน 50,000 บาท ไปยิง 2 ศพดังกล่าว แต่ปรากฏว่านายวีระพงสืหรือปาล์ม มือยิงยังไม่ได้รับเงินค่าจ้างก็มาถูกตำรวจจับกุมได้ พร้อมผู้ว่าจ้างครบทีมดังกล่าวพร้อมอาวุธปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุจำนวน 2 กระบอกทั้งอาวุธปืนลูกซองยาวและอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.พร้อมกระสุนจำนวนหนึ่งและผู้ต้องหาทั้งสามให้การรับสารภาพ

 

ล่าสุด (27มค.2567) เวลา 09.30น. ทาง พ.ต.ท.อภิรัฐ ทองฉิม รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย ร.ต.ท.ธีรภัทร วิสุทธิธรรม พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้มีการควบคุมตัวนายบุญนำ ญาติรัตน์ รองนยายก อบต.ท่าไร่, นายทวีศักดิ์ จินพล ผญบ.ม.2 ต.ท่าไร่ และนายวีระพงศ์ หรือ ปาล์ม  นวลมี อายุ 30 ปี 3 ผู้ต้องหาทีมฆ่าไปฝากขังศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ท่ามกลางการกำลังคุ้มกันที่แน่นหนา 

โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามผู้ต้องหาทั้งสามคนถึงสาเหตุที่ก่อเหตุฆ่า 2 ศพในครั้งนี้ แต่ผู้ต้องหาทั้งสามคนได้ปิดปากเงียบก้มหน้าไม่ยอมตอบคำถามของผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด ก่อนตำรวจรีบพาขึ้นฝากขังไปยังศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชทันที โดยตำรวจแจ้งข้อหานายบุญนำ  รองนายก อบต.ท่าไร่และนายทวีศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้าน ทางตำรวจได้แจ้งข้อหา ร่วมเป็นผู้ใช้จ้างวานให้ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาค,ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน” ส่วนนายวีระพงส์หรือปาล์ม ทางตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน” โดยเบื้องต้นทางตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว.